ช่วย แมนยู ได้ ? เปรียบเทียบผลงานซีซั่นก่อนระหว่าง โอบลัค กับ อลีสซง

ในตอนนี้อนาคตของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลังจากที่เขาจะหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าแล้ว แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ “ปีศาจแดง” สักที ถึงแม้ไม่นานมานี้จะมีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้เขา แต่มันก็ยังไม่แน่นอนว่า เด เคอา จะตอบรับสัญญาฉบับนั้น
เรื่องดังกล่าวทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกับนายทวารหลายคนตามไปด้วยโดยปริยาย เพื่อที่จะเอามาเป็นมือ 1 คนใหม่ในกรณีที่ เด เคอา ย้ายออกจากทีม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ยาน โอบลัค จอมหนึบของ แอตเลติโก มาดริด โดยว่ากันว่าเจ้าตัวเริ่มพิจารณาที่จะย้ายทีมเพราะโมโหที่ "ตราหมี" ผิดสัญญาด้วยการไม่ทำให้ทีมมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งพอสำหรับการลุ้นแชมป์ แถมเขายังชอบ แมนฯ ยูไนเต็ด มากๆ ด้วย
โอบลัค ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในยอดมือกาวของลีกยุโรปในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากเขาโชว์ฟอร์มเซฟได้เหนียวหนึบ แถมลือกันว่า ลิเวอร์พูล เคยกาหัวเขาเป็นหนึ่งในเป้าหมายการช็อปตำแหน่งนายด่านคนใหม่เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน ร่วมกับ อลีสซง เบ็คเกอร์ ด้วย ก่อนที่สุดท้าย "หงส์แดง" จะเลือกปิดดีลกับนายด่านชาวบราซิเลียน
ทั้งนี้ "เร้ด อาร์มี่" บางคนมองว่าถ้าหาก โอบลัค ไปเฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาก็อาจจะส่งผลดีกับทีมเหมือนที่ อลีสซง ทำได้กับ ลิเวอร์พูล ก็ได้ ซึ่งวันนี้เราก็จะเอาผลงานของ อลีสซง กับ โอบลัค เมื่อฤดูกาลก่อนมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้เห็นชัดเจนกันไปเลยว่าทั้งคู่เก่งพอๆ กันจริงๆ รึเปล่า โดยตัวเลขที่เราเอามาอ้างอิงในครั้งนี้มาจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ พรีเมียร์ลีก และ ลา ลีกา เลย
– การเซฟ
ในฤดูกาลที่ผ่านมา อลีสซง เสียประตูในลีกไป 22 ลูก และเก็บคลีนชีทได้ทั้งหมด 21 นัด โดยผลงานดังกล่าวมีส่วนช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นแชมป์ลีกจนถึงนัดสุดท้าย ซึ่งแน่นอนว่าถ้าวัดเฉพาะด้านนี้ อลีสซง มีสถิติที่ดูดีกว่า หลังจาก โอบลัค เสียประตูในลีกไป 27 ลูก และเก็บคลีนชีทได้ 5 หน
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูที่จำนวนการเซฟแล้วนั้น โอบลัค ออกแรงเซฟเยอะกว่าอีกฝ่าย หลังจากเขาเซฟในลีกไปรวมแล้ว 105 ครั้ง ตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้ว ขณะที่ อลีสซง เซฟไปทั้งหมด 76 หนด้วยกัน เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว
– การตัดลูกโยน
ตลอดทั้งซีซั่นที่แล้ว อลีสซง สามารถออกมาตัดลูกโยนของคู่แข่งด้วยการรับเข้ามือได้ 12 ครั้ง ขณะเดียวกันเขาก็ชกบอลออกไปได้ 17 หน เรียกได้ว่าลูกครอสกินเขาได้ยากพอตัว ถึงแม้ พรีเมียร์ลีก จะขึ้นชื่อลือชาระดับหนึ่งในเรื่องที่หลายทีมชอบเน้นเล่นลูกกลางอากาศก็ตาม
อย่างไรก็ตาม โอบลัค ก็ทำผลงานในด้านนั้นได้ดีมากๆ แถมยังเจ๋งกว่า อลีสซง ด้วย หลังจากเขาออกมาตัดลูกโยนของคู่แข่งด้วยการรับเข้ามือได้ 21 ครั้ง และชกบอลออกไปได้ 10 หน โดยทั้งคู่ยังมีส่วนสูงใกล้เคียงกันด้วย หลังจากที่ โอบลัค สูงราว 188 เซนติเมตร ส่วน อลีสซง สูง 191 เซนติเมตร ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาสามารถรับมือกับลูกกลางอากาศได้ดีตามสถิติที่เรากล่าวถึง
– การผ่านบอล
การโยนบอลยาวก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของผู้รักษาประตู เพราะถ้าโยนบอลยาวได้แม่นมันก็จะช่วยให้ทีมได้เล่นเกมบุกในตำแหน่งที่ดี ซึ่งตลอดทั้งซีซั่นก่อน อลีสซง ผ่านบอลยาวได้แม่นยำเฉลี่ยแล้ว 4.8 ครั้งต่อเกมใน พรีเมียร์ลีก ขณะที่ โอบลัค มีจังหวะโยนบอลยาวใน ลา ลีกา เข้าเป้าเฉลี่ยแล้ว 6.2 ครั้งต่อนัด
– การอ่านเกม
บางครั้งผู้รักษาประตูก็ต้องออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษในจังหวะที่คู่แข่งผ่านบอลเข้ามาในแดนของฝั่งตัวเองเหมือนกัน ซึ่งตรงจุดนี้ อลีสซง ทำได้เหนือกว่า โอบลัค แบบเทียบกันไม่ติด เพราะว่า โอบลัค ออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษของตัวเองไปแค่ 5 ครั้งเท่านั้น ตรงกันข้ามกับ อลีสซง ที่ทำได้ถึง 17 หนเลยทีเดียว
สรุป : ถ้าจะบอกว่า อลีสซง กับ โอบลัค เป็น 2 นายทวารที่เก่งที่สุดของลีกยุโรปในตอนนี้มันก็คงไม่เกินเลยมากไป สถิติต่างๆ ในเบื้องต้นเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงเรื่องนั้นได้ดียิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ซึ่งถ้าเกิด แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตัว โอบลัค มาเฝ้าเสาจริงๆ มันก็น่าจะเป็นผลดีต่อพวกเขาอย่างมาก เพียงแต่ก็อาจจะต้องให้เวลา โอบลัค ปรับตัวในการรับมือกับสไตล์การเล่นฟุตบอลของที่อังกฤษเหมือนกัน