ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นภารกิจการทัวร์เล่นเกมอุ่นเครื่องที่ประเทศสหรัฐอเมริกาไปแล้ว สำหรับ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยนัดสุดท้ายของการทัวร์ที่แดนลุงแซมนั้น พวกเขาเสมอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-2 เมื่อวันพุธที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา (เช้าวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย)
นั่นหมายความว่า ลิเวอร์พูล สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยในการเล่น 3 นัดที่แดนลุงแซม โดย 2 นัดก่อนหน้านี้พวกเขาแพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-3 ตามด้วยการปราชัยต่อ เซบีย่า 1-2 ซึ่งหลังจากนี้ทีมของ คล็อปป์ ก็มีคิวดวลกับ นาโปลี ที่ประเทศสกอตแลนด์ ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคมนี้ ขณะที่ สปอร์ติ้ง ก็ไม่ชนะใครเลยในการอุ่นเกือกทั้งหมด 4 นัดเช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจจากเกมนี้กัน
– เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังโดดเด่น
ฤดูกาลก่อนถือเป็นฤดูกาลแห่งความสุขสำหรับ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อย่างแท้จริง เขาทำแอสซิสต์ได้ถึง 16 ครั้งจากการลงเล่น 40 นัดในทุกรายการ และหลายคนก็คาดว่าแบ็กขวาชาวอังกฤษจะยังสานต่อฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาได้ในซีซั่น 2019-20
ทั้งนี้ ในเกมกับ สปอร์ติ้ง แข้งวัย 20 ปีก็แสดงให้เห็นว่าเขามีโอกาสที่จะยังเป็นจอมผ่านบอลให้ทีมได้อยู่ เพราะเขามีจังหวะจ่ายบอลสวยๆ หลายหน อย่างเช่นชอตเปิดลูกเตะมุมที่น่าจะเป็นประตู 2 ครั้ง และการจ่ายระยะ 60 หลาให้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม จนนำไปสู่การทำประตูตีเสมอจาก ดิว็อค โอริกี้ เป็นต้น
แน่นอนว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังมีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่ อย่างเช่นจังหวะที่เขาโดน บรูโน่ แฟร์นันด์ส เล่นงานจนทำให้ทีมเสียประตูตีเสมอ แต่เขาก็ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นใจอย่างมากสำหรับ ลิเวอร์พูล
– อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยังต้องจูนสักหน่อย
หลังจากที่พักไปนานจากการได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงตรงหัวเข่า อดีตแข้ง อาร์เซน่อล ก็กลับมาลงสนามด้วยการได้ลงเล่นไปนิดหน่อยในช่วงปลายฤดูกาลก่อน ซึ่งหลายคนก็คาดหวังว่าหลังจากนี้กราฟชีวิตของ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จะมีแต่ขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ในเกมกับ สปอร์ติ้ง เขาจะมีจังหวะผ่านบอลที่ดูดีอยู่บ้าง แต่มันก็มีจังหวะที่หลายอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการจนทำให้เจ้าตัวบ่นออกมาเหมือนกัน ซึ่งนี่เป็นการตอกย้ำว่าเขายังต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้ ดังนั้น "เดอะ ค็อป" รวมถึงตัว อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เองก็ต้องมีความอดทน เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์อันสุดยอดในบั้นปลาย
– อดัม ลัลลาน่า ยังดูดีกับบทบาทใหม่
ก่อนหน้าที่การอุ่นเครื่องช่วงปรี-ซีซั่นหนนี้จะเริ่มขึ้นนั้น แทบทุกคนต่างก็เห็นตรงกันว่า ลัลลาน่า หมดอนาคตกับ ลิเวอร์พูล แน่นอน เพราะเขาไม่เคยกลับไปโชว์ฟอร์มเก่งเหมือนในช่วงก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงเมื่อช่วงปี 2017 ได้อีกเลย โดยฤดูกาลก่อนเขาก็ได้ลงเล่นไปเพียงไม่กี่นัด
ถึงกระนั้น ในการอุ่นเครื่องช่วงที่ผ่านมา คล็อปป์ ลองจับ ลัลลาน่า ถอยมาเป็นตัวโฮลด์บอล เหมือนที่ จอร์จินโญ่ ทำกับ เชลซี ซึ่งดาวเตะชาวอังกฤษก็ทำผลงานได้น่าพอใจกับบทบาทดังกล่าว แม้กระทั่งเกมกับ สปอร์ติ้ง ที่เขาลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 75 เจ้าตัวก็ยังดูเล่นได้ดีเลย ทำให้นี่อาจจะเป็นการเกิดใหม่ของแข้งวัย 31 ปีก็ได้
– จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นแบบอย่างที่ดี
คนเป็นกัปตันทีมย่อมต้องเล่นด้วยความฮึกเหิมเพื่อเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้ลูกทีมไปในตัว ซึ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฮนเดอร์สัน ก็ทำแบบนั้นได้ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงเกมอุ่นเครื่อง แต่เขาก็แสดงความกระหายชัยชนะอย่างเต็มเปี่ยม และมีส่วนร่วมกับทั้ง 2 ประตู โดยลูกแรกเจ้าตัวเป็นคนโหม่งไปติดเซฟของผู้รักษาประตู ก่อนที่ โอริกี้ จะซ้ำเข้าไป ส่วนลูกสองเขาก็เป็นคนแย่งบอลมาได้ ก่อนที่หลังจากนั้น แชมเบอร์เลน จะผ่านบอลให้ ไวจ์นัลดุม ทำประตู
ก่อนหน้านี้ เฮนเดอร์สัน ให้สัมภาษณ์ว่า ลิเวอร์พูล กระหายความสำเร็จมากกว่าเดิมอีก หลังจากที่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2018-19 ไปครอง และผลงานของเขาในเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมามันก็สื่อให้เห็นว่าอย่างน้อย เฮนเดอร์สัน ก็กระหายความสำเร็จมากกว่าเดิมจริงๆ และมันก็น่าจะเป็นแบบอย่างให้นักเตะคนอื่นของ ลิเวอร์พูล ได้ดี
– แฟร์นันด์ส ของจริง
ถ้าถามว่านักเตะในทวีปยุโรปคนไหนที่เนื้อหอมมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ เชื่อว่าชื่อของ แฟร์นันด์ส คงโผล่มาเป็นลำดับแรกๆ ในใจของหลายคน หลังจากที่ฤดูกาลก่อนเขาทำผลงานได้สุดยอด ด้วยการทำไป 32 ประตู กับอีก 18 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 53 นัดในทุกรายการ
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แข้งวัย 24 ปีก็ตอกย้ำว่าเขามีดีแค่ไหน ด้วยการทำไป 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ ซึ่งนี่ก็อาจจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตามจีบเขาอยู่ ยอมควักเงินก้อนโตเพื่อดึงแข้งชาวโปรตุกีสไปร่วมทัพสักที หลังจากตกเป็นข่าวกับ แฟร์นันด์ส มานานแล้ว