ปีเตอร์ มัวร์ ซีอีโอ ลิเวอร์พูล ไปดูแลสาวกรายหนึ่งของทีมถึงขอบเตียงพยาบาล หลังจากแฟนบอลคนนั้นโดนกองเชียร์ นาโปลี ทำร้ายร่างกาย โดย มัวร์ ยังดูแลแฟนบอลคนนั้นจนกระทั่งมีการรับประกันว่าเขาจะปลอดภัยด้วย
ปีเตอร์ มัวร์ ประธานบริหาร ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปคอยดูแลแฟนบอล "หงส์แดง" ถึงเตียงโรงพยาบาล หลังจากที่ "เดอะ ค็อป" คนหนึ่งโดนสาวก นาโปลี ทำร้ายร่างกายในช่วงก่อนเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี นัดที่ ลิเวอร์พูล แพ้อีกฝ่าย 0-2 เมื่อวันอังคารที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา
ก่อนที่นัดดังกล่าวจะเริ่มขึ้นนั้่น ฮูลิแกนของ นาโปลี ได้ทำร้ายร่างกายแฟนบอล ลิเวอร์พูล บางส่วนในตอนที่กองเชียร์จากอังกฤษไม่ทันตั้งตัว จนทำให้บางคนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สตีเว่น อัลเลน แต่หลังจากนั้นทั้งหมดก็ยังเข้าไปเชียร์ทีมรักใน ซาน เปาโล ต่อ
อย่างไรก็ตาม ในตอนพักครึ่งนั้น อัลเลน ถึงขั้นสลบเหมือด จากการที่เขาเสียเลือดเยอะเกินไป และทำให้ชายวัย 26 ปีถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ซึ่งในโลกอินเตอร์เน็ตก็มีการเรียกร้องให้แฟนบอลคนอื่นๆ ช่วยไปดูอาการของ อัลเลน
ทั้งนี้ มัวร์ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว พร้อมกับตรงดิ่งไปยังโรงพยาบาลทันที ซึ่งเขาก็คอยอยู่ดูแลแฟนบอลคนนั้นแบบชิดติดขอบเตียง และเขาก็ถึงขนาดประกาศว่าจะไม่ออกจากโรงหมอจนกว่าที่จะมีการรับประกันว่า อัลเลน จะปลอดภัยเลย
มัวร์ กล่าวผ่าน ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังว่า "ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาลกับ สตีเว่น เรียบร้อยแล้ว เราจะไม่ทิ้งเขาจนกว่าเราจะมั่นใจว่าเขาจะปลอดภัย ดังนั้นทุกคนเลิกกังวลได้เลย เราพยายามที่จะให้แพทย์ได้ดูอาการของเขา แต่ตอนนี้ตำรวจกับแพทย์ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเขาเท่าไหร่"
หลังจากนั้น มัวร์ ก็อัพเดตว่าทีมแพทย์กับตำรวจได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ อัลเลน แล้ว พร้อมบอกว่าแฟนบอลรายดังกล่าวฝากตนมาขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงเขา ซึ่งทางตำรวจในย่านเมอร์ซี่ย์ไซด์ก็เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า อัลเลน ออกจากโรงพยาบาลได้เป็นที่เรียบร้อย
I’m at the hospital with Steven right now. We will not leave him until we are comfortable that he’s fine, so can everyone stop worrying for now. Trying to get him seen by a doctor, but there’s a distinct lack of urgency here from the police and medical staff. https://t.co/5ZCkWs2M65
— Peter Moore (@PeterMooreLFC) September 17, 2019