แผนยุทธศาสตร์สำคัญที่รัฐบาลลุงตู่ใช้แก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจตลอดมา…
คือกู้เงินมาแจกเงิน
อย่างอื่นคิดไม่ออก…นอกจากแจกเงิน!!
เช่น จ่ายเงินซื้อสินค้า 100 บาท ต้องจ่ายเงินเอง 50 บาท รัฐบาลจ่ายเติมอีก 50 บาทเท่ากัน
เป้าหมายเพื่อลดภาระค่า ครองชีพ และกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียน
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าโปรโมชันใหม่ล่าสุดจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม
โดยไม่จำกัดคุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียน
ขอเพียงเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุเกิน 18 ปีขึ้นไป มีสิทธิลงทะเบียนรับเงินแจกฟรี 3,000 บาทได้ทุกคน
จะเป็นผู้มีฐานะยากจน หรือเป็นผู้มีฐานะร่ำรวย มีสิทธิเท่ากัน
จะเป็นคนตกงาน ว่างงาน หรือมีงานทำ มีรายได้ประจำไม่สำคัญ
จะเป็นข้าราชการ หรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก็ไม่ผิดกติกา
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าโปรโมชันใหม่แจกเงิน 3,000 บาท ให้ประชาชน 15 ล้านคน
ต้องใช้งบอัดฉีดอีก 45,000 ล้านบาท จากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ของรัฐบาล
คาดว่าเม็ดเงินอัดฉีด 45,000 ล้านบาท จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอีก 2 รอบ
หรือ 90,000 ล้านบาท โดยประมาณ
เงินก้อนนี้จะกระจายไปถึงผู้ค้าขายรายย่อย และหาบเร่แผงลอย 80,000 ราย ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
แต่ยังเปิดกว้างให้ใช้จ่ายซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้า ห้างเมกะสโตร์ และร้านสะดวกซื้อได้อย่างเดิม
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลใช้วิธีแจกเงินแบบเหวี่ยงแห
โดยไม่คัดกรองคุณสมบัติผู้มีสิทธิลงทะเบียน
ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลแจกเงินฟรีให้ผู้มีฐานะดี ผู้มีรายได้ประจำ ผู้ไม่ขัดสนยากจน
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ใช้จ่ายได้อย่างสบายแฮ
เหตุผล…เพราะเงินที่รัฐบาลเอาไปแจกฟรีเป็นเงินที่รัฐบาลต้องกู้ยืมมา
รัฐบาลควรใช้เงินกู้ 4.5 หมื่นล้านบาท เฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งควรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลจริงๆ
ไม่ใช่เอาเงินกู้ไปแจกเทกระจาดแจกฟรีให้ใครก็ได้ที่ไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิ 15 ล้านคน
“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น “นายกฯลุงตู่” โปรดพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิลงทะเบียนรับเงินแจกฟรีจากรัฐบาล
แจกเงินฟรีเฉพาะคนที่เดือดร้อนจริงๆ จะดีกว่านะโยม.