ฤดูกาล 2019/20 เปิดซีซั่นกันในวันนี้ และความมันของเหล่าแฟนบอลก็จะกลับมาอีกครั้ง สัปดาห์นี้เราจะพาทุกท่านไปดูประเด็นร้อนๆก่อนเกมนัดแรกก่อน จะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย
ลิเวอร์พูล – นอริช
ถือเป็นเกมนัดเปิดสนามของฤดูกาล 2019-20 ที่จะลงเล่นเป็นคู่แรกในคืนวันศุกร์นี้ ซิ่งแน่นอนว่าทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มุ่งมั่นประเดิมด้วยสามแต้มสถานเดียวเนื่องจากเจอกับทีมน้องใหม่อย่าง นอริช ที่กลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดในรอบ 3 ปี
เกมนี้ถือเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2016 โดยเกมนั้น "หงส์แดง" บุกไปเอาชนะที่ แคร์โรว โรด แบบสุดมันส์ 5-4 โดยเกมดังกล่าว โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำได้ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์
ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ ของ นอร์ริช จะเป็นกุนซือคนที่ 12 ที่จะพบ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรก ซึ่ง 4 จาก 11 คนก่อนหน้านี้ต่างเก็บชัยชันะไปได้ทั้ง ไบรอัน คลัฟ, จอห์น เกรกอรี่, พอล สเตอร์ร็อค, และ เคร็ก เช็คสเปียร์
ส่วนอีก 4 คนบุกมาปราชัยที่แอนฟิลด์ทั้ง เดวิด แพล็ทท์, คริส ฮัทชิงส์, โทนี่ อดัมส์ และ โรนัลด์ คูมันน์
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจคือ ลิเวอร์พูล เคยเปิดบ้านเจอ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ในเกมเปิดซีซั่นมาแล้วครั้งหนึ่งโดยเกมนั้นเป็น "เร้ด แมชชีน" ที่เอาชนะไปได้ 1-0 ในฤดูกาล 1976/77 ก่อนจะปิดฉากคว้าแชมป์โดยเฉือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแค่คะแนนเดียวเท่านั้น
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด – แมนฯ ซิตี้
แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่า จะเปิดสนามด้วยการบุกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เสริมทัพผู้เล่นได้น่าสนใจ แต่หากดูจากสถิติในซีซํ่นที่แล้วลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดูข่มอยู่มากหลังจากในซีซํ่นที่แล้วพวกเขาเอาชนะทีม "ขุนค้อน" ได้ทั้งสองนัด รวมถึงเพิ่งถล่มมาแบบขาดลอย 4-1 ในศึกพรีเมียร์ เอเชีย โทรฟี่
หากดูจากสถิติบรรดาแชมป์เก่าที่เริ่มต้นฤดูกาลนัดแรกในฤดูกาลใหม่เคยพลาดท่าแพ้มาเพียงสองครั้งเท่านั้นคือ เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ ฮัลล์ ซิตี้ 1-2 ในฤดูกาล 2016-17 และ เชลซี แพ้ เบิร์นลีย์ 2-3 ในฤดูกาล 2010-11
นอกจากนี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงตัวเก่ง "เรือใบสีฟ้า" ยังมีสถิติยอดเยี่ยมในการลงเล่นนัดแรกในเกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีก หลังกดไปถึง 6 ประตูมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆในปัจจุบัน โดยเป็นรอง เวย์น รูนีย์, อลัน เชียเรอร์, แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ทำไว้ 8 ประตู ส่วนรองมาเป็น เท็ดดี้ เชอริงแฮม ที่ทำได้ 7 ประตู
ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ – แอสตัน วิลล่า
ถือเป็นครั้งที่ 6 ของ "ไก่เดือยทอง" ที่จะลงเล่นเกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีกกับทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้น ซึ่งพวกเขาก็มีสถิติที่ยอดเยี่ยมจากการเอาชนะ 4 จาก 5 เกม โดยปราชัยหนึ่งครั้งให้กับ ซันเดอร์แลนด์ ในฤดูกาล 2007-08
ขณะที่ทีม "สิงห์ผงาด" ตั้งเป้าที่จะเก็บชัยเหนือ สเปอร์ส เป็นครั้งที่สองจากสถิติพบกัน 18 ครั้ง (ชนะ1 เสมอ3 แพ้13) โดยชัยชนะครั้งแรกของพวกเขาต้องย้อนไปในเดือนเมษายน 2015 ที่บุกมาเก็บชัยด้วยสกอร์ 1-0 ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน จากประตูชัยของ คริสติยอง เบนเตเก้
ส่วน แฮรี่ เคน ดาวยิงตัวเก่งของ สเปอร์ส มีสถิติยอดเยี่ยมในการเจอกับ วิลล่า จากการซัด 4 ประตูจาก 5 เกมในพรีเมียร์ลีก ซึ่ง 2 ประตูเกิดขึ้นในเกมล่าสุดที่ดาวยิงทีมชาติอังกฤษเหมาคนเดียวพาต้นสังกัดบุกไปเอาชนะได้ 2-0 เมื่อเดือนมีนาคม 2016
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด – อาร์เซน่อล
สตีฟ บรูซ กลายเป็นกุนซือคนที่สองต่อจาก แซม อัลลาไดซ์ ที่ได้คุมทั้ง ซันเดอร์แลนด์ และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้าน อูไน เอเมรี่ ถือเป็นซีซั่นที่เจ้าตัวจะได้พิสูจน์ฝีมือ
ไอ้ปืนใหญ่ กินขาดเรื่องสถิติเหนือสาลิกาดงสุดกู่ 12 จาก 13 นัดที่เจอกันในทุกรายการ อาร์เซน่อล เก็บชัยได้ถึง 12 เกม โดยแพ้เพียงเกมเดียวเท่านั้นที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อเดือน เมษายน ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขามีสถิติลงเล่นเกมนัดเปิดฤดูกาลไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อ แพ้ไปถึง 4 จาก 6 เกม ซึ่งทั้งหมดมาจากความพ่ายแพ้ที่บ้านตัวเอง
แมนฯยูไนเต็ด – เชลซี
การดวลกันของสองกุนซือที่เคยเป็นแข้งดังของทีมตัวเองมาก่อน
ทั้งแมนฯยูไนเต็ด และ เชลซี เป็นสองทีมที่มีสถิติคว้าชัยนัดแรกได้มากที่สุด โดยปีศาจแดง ชนะ 18 ขณะที่ เชลซี ชนะ 17 นัด และตลอด 26 นัดที่เล่นเกมเปิดซีซั่น นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อเป็นพรีเมียร์ลีก แมนฯยูไนเต็ด แพ้เพียงเกมเดียวเท่านั้นต่อ สวอนซี ซิตี้ เมื่อฤดูกาล 2014/15
ชัยชนะของเชลซี 6 นัดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีก เกิดจากฝีมือของกุนซือที่แตกต่างกัน 6 คน ไล่ตั้งแต่ เกล็น ฮอดเดิ้ล, รุด กุลลิท, เคลาดิโอ รานิเอรี่, โชเซ่ มูรินโญ่, คาร์โล อันเชล็อตติ และ ราฟาเอล เบนิเตซ โดย 5 จาก 6 กุนซือเหล่านี้ ได้ชัยชนะจากเกมแรกที่มาเยือนโรงละครแห่งความฝัน