ถึงแม้ตลาดการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์ของทุกลีกใหญ่ในทวีปยุโรปจะปิดตัวลงไปแล้ว แต่ข่าวเรื่องการย้ายทีมก็ยังโผล่มาให้เห็นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับบรรดาทีมที่หลายคนมองว่ายังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร หรือเจอปัญหาที่นักเตะของพวกเขามีอาการบาดเจ็บจนต้องพักยาวงหลังจากปิดตลาดไปแล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในทีมที่ยังมีข่าวเรื่องการซื้อนักเตะอย่างต่อเนื่อง เพราะถึงแม้ช่วงซัมเมอร์ของปีนี้พวกเขาจะได้ทั้ง แดเนี่ยล เจมส์, อารอน วาน-บิสซาก้า และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มาร่วมทัพ (โดยที่ทั้ง 3 คนก็ทำผลงานได้ดีด้วย) แต่หลายคนก็มองว่าแนวรุกของพวกเขายังมีปัญหา โดยเฉพาะในตำแหน่งกองหน้าที่มีตัวเลือกเพียง มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ เมสัน กรีนวู้ด
ทั้งนี้ กองหน้าที่ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบน่าเซอร์ไพรส์พอตัวคือ เวดัต มูริกี หัวหอกชาวโคโซโวของ เฟเนร์บาห์เช่ โดยว่ากันว่าพวกเขาส่งแมวมองไปเช็กฟอร์มของเจ้าตัวในเกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก ที่ทีมชาติโคโซโวเพิ่งแพ้ อังกฤษ 3-5 เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งนัดนั้นแข้งวัย 25 ปีก็ทำผลงานได้น่าประทับใจพอตัว จากการทำเอง 1 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 2 ครั้ง และวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าทักษะของ มูริกี เป็นยังไงบ้าง เพื่อจะได้ดูว่าเขาจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับ "ปีศาจแดง" ได้รึเปล่า
– การจบสกอร์
แน่นอนว่านี่คือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของคนเป็นกองหน้า และเป็นสิ่งที่แดนหน้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดอยู่ในตอนนี้ก็ว่าได้ เพราะหลายคนมองว่าบรรดาศูนย์หน้าของ "ปีศาจแดง" ไม่มีความเฉียบขาดในการจบสกอร์มากเท่าที่ควร
ในทางกลับกัน มูริกี ถือว่ามีคุณสมบัติที่โดดเด่นพอตัวในการยิง เพราะฤดูกาลที่แล้วเขาทำประตูมในลีกได้ถึง 17 ลูกจากการเล่นให้ ริเซสปอร์ สโมสรในลีกสูงสุดของประเทศตุรกี 34 เกม และพอซีซั่นนี้มาอยู่กับ เฟเนร์บาห์เช่น เจ้าตัวก็ยังทำผลงานได้โดดเด่น ด้วยการทำไป 2 ลูก จากการลงเล่นในลีก 4 นัด
ความเฉียบคมในระดับหนึ่งของ มูริกี สามารถดูได้จากอัตราการเปลี่ยนลูกยิงให้เป็นประตู เพราะเขามีผลงานด้านนี้อยู่ที่ 21.59 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากนับตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมา โดยมันก็ทำให้เขาเป็นรองดาวซัลโวสูงสุดของลีกตุรกีเมื่อซีซั่นที่แล้วด้วย ส่วนดาวซัลโวของฤดูกาลก่อนคือ เอ็มบาย ดาเญ่ ที่ทำไป 30 ลูก
– ลูกกลางอากาศ
การเล่นลูกกลางอากาศถือเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นในระดับหนึ่ง และยิ่งเป็นการเล่นใน พรีเมียร์ลีก ด้วยแล้วนั้น ลูกกลางอากาศก็ถือว่ามีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มีคนที่เปิดบอลได้แม่นเท่าไหร่ แต่การมีคนที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีเอาไว้ก่อนก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ทั้งนี้ มูริกี มีผลงานระดับปานกลางกับด้านนี้ เพราะเขาขึ้นดวลลูกกลางอากาศเฉลี่ยแล้ว 10.5 ครั้งต่อนัด และชนะการดวล 5.1 ครั้งต่อหน นอกจากนี้ ซีซั่นก่อนเขาก็ทำประตูจากลูกโหม่งได้ 3 ลูก
– การผ่านบอล
จุดเด่นด้านหนึ่งของ มูริกี คือการที่เขาเป็นกองหน้าที่มีการผ่านบอลที่น่าพอใจ โดยฤดูกาลที่แล้วเขาทำไปได้ 8 แอสซิสต์ในลีก รวมถึงสามารถผ่านบอลในจังหวะสำคัญๆ เข้าเป้าหมายเฉลี่ยแล้ว 1.4 หนต่อนัดด้วยกัน
การที่เขามีความสามารถด้านการผ่านบอลมันน่าจะเป็นประโยชน์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าเกิด มูริกี ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า เขาก็จะสามารถผ่านบอลให้ แรชฟอร์ด หรือ มาร์กซิยาล ที่เป็นตัวรุกตรงริมเส้นสอดแทรกขึ้นมาทำประตูได้ด้วย
สรุป : เรื่องลูกกลางอากาศอาจจะอยู่ในระดับครึ่งๆ กลางๆ แต่การจบสกอร์ของ มูริกี ถือว่าน่าประทับใจพอตัว ซึ่งกองหน้าตัวเป้าตามธรรมชาติที่จบสกอร์ได้ดีแบบนี้คือสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังขาดอยู่ แถมเขาน่าจะมีค่าตัวที่ไม่สูงเกินไปด้วย
นอกจากนี้ การที่เจ้าตัวยังมีอายุเพียง 25 ปีก็ถือว่าเข้าข่ายตามโปรเจกต์ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด วางเอาไว้ หลังจากที่ โซลชา ต้องการเน้นสร้างทีมที่มีแข้งวัยหนุ่มเป็นกำลังหลัก ด้วยเหตุนี้ มูริกี จึงเป็นดีลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะลองเสี่ยงลงทุน เผื่อว่า มูริกี จะช่วยทำให้เกมรุกของทีมดุดันขึ้นได้