เสร็จไม่ทัน! สนามสมโภช 700 ปีไม่พร้อมจัดยู-23เอเชีย 1

เสร็จไม่ทัน! สนามสมโภช 700 ปีไม่พร้อมจัดยู-23เอเชีย

หลังจากสนามสมโภช 700 ปี ได้ทำการปิดปรับปรุงพื่อเตรียมพร้อมในการเป็น 1 ใน 4 ของสนามเจ้าภาพใช้ใน ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบสุดท้าย ซึ่งใช้ในเกมสุดทายวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาในไทยลีก 2019 โดย เอสซีจี เมืองทองฯ บุกไปเสมอ เชียงใหม่ เอฟซี 1-1

    จากนั้นเป็นต้นมาเกือบ 2 เดือน เพจของสาวก "พยัคฆ์ล้านนา" ที่ใช้ชื่อว่า "Chiangmai F.C. English Fanzine" ได้ทำการลงรูปสนามสมโภช 700 ปี ปรากฏว่า ยังไม่มีการปรับปรุงใดๆเกิดขึ้น ซึ่งใช้การโพสต์ว่า "Our friends at JL English Fanzine have just been to see the developments at the 700yr and surprise surprise, there is none. Once again the fans have been lied to." 

    หรือแปลเป็นไทยก็คือ "เพื่อนของเรา JL English Fanzine เพิ่งได้เห็นการพัฒนาที่ 700 ปีและไม่มีการเซอร์ไพรส์ใดๆ เป็นอีกครั้งที่แฟนบอลถูกโกหก" ทำให้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นแม่ทัพใหญ่ในการปรับปรุงสนาม ก่อนได้รับคำตอบว่า

    "เราได้รับการยืนยันจากผู้รับเหมาแล้วว่า สนามสมโภช 700 ปี จะปรับปรุงไม่เสร็จทันใช้ศึก ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ในเดือน ม.ค. ทำให้เรากำลังทำหนังสือไปถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อจะขอหารือในการเปลี่ยนสนาม ก่อนที่ เอเอฟซี จะเดินทางมาตรวจ อย่างไรก็ตามสนามราชมังฯ ที่จะเป็นเมนหลักในพิธีเปิด-ปิด จะเสร็จทันแน่นอน"

เสร็จไม่ทัน! สนามสมโภช 700 ปีไม่พร้อมจัดยู-23เอเชีย

เสร็จไม่ทัน! สนามสมโภช 700 ปีไม่พร้อมจัดยู-23เอเชีย 2

    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง "บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์  รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและรองโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก่อนได้รับคำตอบว่า "ทางสมาคมได้ทำหนังสือรบกวนขอให้ทางการกีฬาฯแจ้งความคืบหน้า ในการดำเนินงานของทุกสนามไปแล้ว รวมถึงของที่สงขลาเช่นกัน ที่เป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เนื่องจากเราเป็นผู้ขอใช้สถานที่ครับ ก็ต้องรอฟังองค์กร"

    "ซึ่ง ส.บอล ต้องการขอให้ กกท. แจ้งเราทางการก่อนครับ เพราะเราคือผู้ขอใช้งาน เอเอฟซีต้องทราบว่าเปลี่ยนเพราะอะไร และที่ใหม่ต้องเข้ามาตรฐาน และงบประมาณที่ต้องปรับปรุง เจ้าของสนามต้องยินดี ตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ 100 % จนกว่าจะมีหนังสือแจ้งมาทางเราครับ"

    ด้าน "บิ๊กแชมป์"กรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาเผยว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันเรื่องนี้จากทาง กกท. แต่ถ้าต้องมีการย้ายจริงๆ คงจะต้องดูสนามที่พร้อมแบบว่าสามารถไปใช้ได้เลย นั่นคือ คงจะมีที่ จ.บุรีรัมย์ เพราะก่อนหน้านี้ทาง เอเอฟซี ได้มาตรวจสอบหลายสนาม ซึ่งสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ของเอสซีจี เมืองทองฯ แม้ว่าจะมีที่นั่งหมื่นอัพ ทว่ายังขาดเรื่องห้องแต่งตัวกับบริเวณวีไอพี ส่วน ลีโอ สเตดี้ยม ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อัฒจันทร์ไม่ครบทั้ง 4 ด้าน ตามหลักเกณฑ์ของการถ่ายทอดสด"

เสร็จไม่ทัน! สนามสมโภช 700 ปีไม่พร้อมจัดยู-23เอเชีย

    "บิ๊กแชมป์"ยังบอกอีกว่า "ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ จะมีการจับสลากแบ่งสายรอบสุดท้าย ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 แต่ก่อนหน้านั้นเราจะเชิญทาง เอเอฟซี มาร่วมหารือกันก่อน ถึงแนวทางที่จะมีการเปลี่ยนสนาม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการวางโปรแกรมและเดินทางของชาติต่างๆ"

    สำหรับอีก 3 สนามในศึก เอเอฟซี ยู 23 แชมเปี้ยนส์ชิพ 2020 รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 8-26 ม.ค.63 ประกอบด้วย สนามราชมังคลากีฬาสถาน , สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และสนามกีฬาติณสูลานนท์ จ.สงขลา

    ทั้งนี้ศึก เอเอฟซี ยู 23 แชมเปี้ยนส์ชิพ 2020 จะคัดเอาทีมแชมป์ , รองแชมป์ และอันดับ 3 เป็นตัวแทนทวีปเอเชีย ไปลุยฟุตบอลชายโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 24 ก.ค.63 – 9 ส.ค.63 ต่อไป หากเกิดกรณี ญี่ปุ่น เจ้าภาพโอลิมปิก 2020 คว้าแชมป์ หรือรองแชมป์ รวมถึงคว้าอันดับ 3 ทีมที่ได้อันดับ 4 จะได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นโอลิมปิก 2020 แทน ตามกติกาโควต้าทวีปเอเชีย จำนวน 3 ทีม หรือ 3+1 (เจ้าภาพญี่ปุ่น)

เสร็จไม่ทัน! สนามสมโภช 700 ปีไม่พร้อมจัดยู-23เอเชีย
เล่นสล็อต สร้างรายได้กันเถอะ สมัครรับทุนฟรี คลิกเลย!