ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก 1

ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก

ยิ่งตลาดซื้อนักเตะมันเหลือเวลาน้อยเท่าไหร่ การเจรจาเรื่องการโยกย้ายมันก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้นเท่านั้น โดยทีมที่อยากซื้อนักเตะคนใดคนหนึ่งก็มักจะยอมทุ่มเงินอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้แข้งที่เป็นเป้าหมายไปครอง ยิ่งเป็นวันสุดท้ายของตลาดมันก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

    ทั้งนี้ ในช่วงซัมเมอร์ของฤดูกาล 2019-20 ทีมในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สามารถซื้อนักเตะได้จนถึงเวลาราว 23.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหคม ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งมันก็อาจจะเกิดดีลที่ชวนฮือฮาขึ้นอีกก็ได้ และวันนี้เราก็จะมาย้อนดูกันว่าในอดีตนั้น 5 ดีลไหนในวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่ถือเป็นดีลที่สุดยอดที่สุด โดยเราจะอ้างอิงค่าตัวจาก โฟร์โฟร์ทู สื่อด้านฟุตบอลชื่อดัง

    – ร็อบบี้ คีน : จาก ลีดส์ ไป สเปอร์ส ปี 2002 ค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 287 ล้านบาท)
    ในตอนนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ คีน จะมีค่าตัวถูกระดับนี้ เพราะตอนอยู่กับ ลีดส์ เขาไม่ได้โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอะไร อย่างในฤดูกาล 2001-02 เจ้าตัวยังทำประตูได้เพียง 3 ลูก จากการลงเล่นในลีก 25 นัด ส่วนถ้านับรวมจากทุกรายการก็อยู่ที่เพียง 9 ประตู จากการลงเล่น 33 เกม

 

ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก

 

    อย่างไรก็ตาม ในซีซั่นแรกของเขากับ สเปอร์ส คีน ก็แสดงให้เห็นว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับ "ไก่เดือยทอง" หลังจากเขาทำประตูในลีกได้ 13 ลูกจากการลงเล่น 29 นัด ก่อนที่หลังจากนั้นจะทำประตูให้ทีมได้ในระดับที่น่าพอใจอยู่เรื่อยๆ จนเป็นกำลังสำคัญของทีมถึงหลายฤดูกาล

ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก 2

    – โคล้ด มาเกเลเล่ : จาก เรอัล มาดริด ไป เชลซี ปี 2003 ค่าตัว 16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 656 ล้านบาท)
    มาเกเลเล่ ถือเป็นนักเตะที่มีความสำคัญอย่างมากคนหนึ่งของ เรอัล ยุค กาลาคติกอส ในตอนนั้น ถ้าถามว่าสำคัญขนาดไหนก็ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าขนาด ซีเนดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของ "ราชันชุดขาว" ยังฉุนขาดในตอนที่รู้ว่าเพื่อนร่วมชาติของเขาโดนขายไปอยู่กับ เชลซี เลย

 

ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก

 

    เรอัล อาจจะมองว่า มาเกเลเล่ ไม่มีความสำคัญกับทีมอีกต่อไป แต่แข้งเลือดน้ำหอมก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอดีตต้นสังกัดในสเปนคิดผิด หลังจากที่เขาเป็นฟันเฟืองสำคัญในแดนกลางให้ เชลซี เป็นเวลาหลายฤดูกาล และได้ทั้งแชมป์ลีก 2 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 1 ครั้ง, แชมป์ ลีก คัพ 2 หน รวมถึงแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย สวนทางกับ เรอัล ที่หลังจากปล่อย มาเกเลเล่ ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2003 แล้วนั้น พวกเขาก็ได้แชมป์เพียงรายการเดียวตั้งแต่ระหว่างซีซั่น 2003-04 จนถึงฤดูกาล 2005-06 นั่นคือแชมป์ สแปนิช ซูเปอร์คัพ

    – อูโก้ โยริส : จาก ลียง ไป สเปอร์ส ปี 2012 ค่าตัว 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 96 ล้านบาท)
    โยริส ทำผลงานได้โดดเด่นทั้งกับ ลียง และ ฝรั่งเศส จนถึงขนาดได้รับการยกย่องว่าเป็นนายทวารที่เก่งที่สุดลำดับต้นๆ ของโลก ซึ่งในวันปิดตลาดของฤดูกาล 2012-13 สเปอร์ส ก็เป็นฝ่ายที่ได้เขาไปครองด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์

 

ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก

 

    จนถึงตอนนี้นายทวารวัย 32 ปีก็แสดงให้เห็นว่า สเปอร์ส คิดถูกแล้วที่ซื้อเขามาร่วมทัพ หลังจากที่ โยริส โชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบอย่างคงเส้นคงวามาโดยตลอด และเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ทีมก้าวขึ้นมาจนถึงจุดนี้ได้ แถมเขายังได้เป็นกัปตันทีมของ สเปอร์ส อีกต่างหาก

    – เวย์น รูนี่ย์ : จาก เอฟเวอร์ตัน ไป แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2004 ค่าตัว 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 820 ล้านบาท)
    ตอนนั้น รูนี่ย์ ถือเป็่นนักเตะที่เนื้อหอมพอตัวในฐานะกองหน้าวัยรุ่นฝีเท้าดี หลังจากที่เขาทำผลงานได้โดดเด่นกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งสุดท้ายก็เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้ตัวเขาไปร่วมทัพในวันปิดตลาดของซีซั่น 2004-05 โดยตอนแรกหลายคนก็คิดว่า รูนี่ย์ อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับทีมสักหน่อย

 

ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก

 

    อย่างไรก็ตาม แค่ฤดูกาลแรกกับทีม รูนี่ย์ ก็ทำประตูในลีกได้ถึง 11 ลูก จากการลงเล่น 29 เกม แถมนัดเปิดตัวของเขาซึ่งเป็นเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเจอกับ เฟเนร์บาห์เช่ นั้น รูนี่ย์ ยังถึงขั้นทำแฮตทริกได้ด้วย โดยหลังจากนั้นดาวเตะชาวอังกฤษก็เป็นกำลังสำคัญให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายซีซั่น จนท้ายที่สุดแล้วก็ได้เป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ "ปีศาจแดง" จากการลงเล่นในทุกรายการที่จำนวน 253 ประตู ทำลายสถิติเดิมที่ยืนยาวมานานของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ลงได้

    – แอชลี่ย์ โคล : จาก อาร์เซน่อล ไป เชลซี ปี 2006 ค่าตัว 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 205 ล้านบาท)
    เดิมทีแค่การที่ โคล ย้ายออกจากทีมมันก็ทำให้แฟนบอล อาร์เซน่อล เซ็งสุดขีดอยู่แล้ว เพราะตอนนั้น โคล ได้รับการยกย่องจากหลายฝ่ายว่าเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายชั้นยอดของทวีปยุโรป แต่ที่มันน่าเจ็บใจมากกว่านั้นสำหรับสาวก "ไอ้ปืนใหญ่" ก็คือการที่ดาวเตะชาวอังกฤษดันเลือกไปอยู่กับ เชลซี คู่แข่งร่วมลีก และคู่อริร่วมกรุงลอนดอนซะอย่างนั้น

 

ปีนี้จะมีอีกไหม ? ย้อนรอย 5 สุดยอดดีลวันปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ของ พรีเมียร์ลีก

 

    ไม่เพียงแค่นั้น ค่าตัวของเขายังอยู่ที่เพียง 5 ล้านปอนด์เท่านั้นด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ ของ เชลซี เพราะ โคล ได้แชมป์กับทีมหลายรายการ อย่างเช่นแชมป์ลีก 1 สมัย, แชมป์ เอฟเอ คัพ 4 ครั้ง และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 หน เป็นต้น

เล่นสล็อต สร้างรายได้กันเถอะ สมัครรับทุนฟรี คลิกเลย!