อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด- BiuBiu999 1

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

แนวโน้มในตอนนี้มันดูเหมือนว่า โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาวเบลเยียมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะมีแววย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ มากกว่าการได้อยู่กับ “ปีศาจแดง” ต่อ หลังเขาไม่ได้ถูกมองว่าเป็นหัวหอกเบอร์ 1 ของทีมแต่อย่างใด


สมัครใหม่จะส่งมอบลงทะเบียนรับทันที200

    สำหรับทีมที่มีโอกาสจะเป็นต้นสังกัดใหม่ของ ลูกากู มากที่สุดก็คือ อินเตอร์ มิลาน หลังจากที่ "เนรัซซูรี่" มีข่าวกับ ลูกากู อยู่เรื่อยๆ จากการที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เทรนเนอร์คนใหม่ของที่นั่นชอบฝีเท้าของ ลูกากู มานานแล้ว และเคยอยากได้อีกฝ่ายไปเป็นลูกทีมตั้งแต่ตอนที่เขาคุม เชลซี ด้วย

    อย่างไรก็ตาม จากการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งค่าตัวของเขาเอาไว้ถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,280 ล้านบาท) ทำให้ อินเตอร์ พยายามหาทางลดค่าหัวด้วยการจะแถมนักเตะไปให้ ซึ่งล่าสุดมันก็มีข่าวว่าทีมของ คอนเต้ พร้อมที่จะส่ง เมาโร อีการ์ดี้ มาเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิด แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบรับข้อเสนอนี้จริงมันก็มีเรื่องที่อันตรายต่อพวกเขามากๆ เหมือนกัน

    – ค่าเหนื่อยก้อนโต
    ด้วยความที่หลายฤดูกาลก่อนหน้านี้ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนกลายเป็นแข้งกำลังหลักของทีม มันก็ทำให้ อินเตอร์ จับเขาเซ็นสัญญาฉบับใหม่ไปตั้งแต่ปี 2016 และทำให้เขาได้รับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 135,000 ยูโร (ประมาณ 4.86 ล้านบาท) ซึ่งนั่นก็ทำให้ตอนนี้ อีการ์ดี้ เป็นคนทื่ฟันค่าเหนื่อยเยอะที่สุดของทีมไปโดยปริยาย

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด- BiuBiu999 2

 

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

    ทั้งนี้ ต่อให้จะมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฐานะตัวแถม แต่เชื่อกันว่า อีการ์ดี้ ก็คงต้องการค่าเหนื่อยในระดับใกล้เคียงกับที่ได้รับจาก อินเตอร์ อยู่ดี ซึ่งนั่นคือเรื่องที่เป้นปัญหาสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะเดิมทีตอนนี้พวกเขาก็ต้องแบกภาระค่าเหนื่อยก้อนโตอันมหาศาลเอาไว้อยู่แล้ว

 

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

    ต่อให้นักเตะอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ที่รับค่าเหนื่อยในเบื้องต้นสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ (ประมาณ 12.60 ล้านบาท), ปอล ป็อกบา ที่ฟันค่าเหนื่อย 290,000 ปอนด์ (ประมาณ 11.89 ล้านบาท), ดาบิด เด เคอา ที่รับค่าเหนื่อยเท่ากับ ลูกากู อยู่ที่สัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ (ประะมาณ 7.20 ล้านบาท) จะพร้อมใจกันบอกลาทีมในซัมเมอร์นี้ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังมีนักเตะที่ฟันค่าเหนื่อยก้อนโตอีกหลายคน อย่างเช่น ลุค ชอว์ ที่ได้ไปสัปดาห์ละ 195,000 ปอนด์ (ประมาณ 7.99 ล้านบาท) ดังนั้นการเข้ามาของ อีการ์ดี้ มันก็อาจจะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องกลุ่มกับค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเหนื่อยต่อไป และอาจส่งผลให้นักเตะบางคนไม่พอใจไปด้วยก็ได้ที่พวกเขาได้ค่าเหนื่อยน้อยกว่า อีการ์ดี้ เมื่อจารณาถึงเรื่องที่พวกเขาพยายามทุ่มเทเพื่อทีมมาโดยตลอด ต่างกับ อีการ์ดี้ อย่างสิ้นเชิง

    – พิษสงของ นาร่า
    นอกจากจะมีสถานะเป็นภรรยาของ อีการ์ดี้ แล้วนั้น วานด้า นาร่า สาวสวยชาวอาร์เจนไตน์ยังพ่วงตำแหน่งเอเยนต์ของ อีการ์ดี้ ด้วย ซึ่งก็อย่างที่รู้กันดีว่าโลกุตบอลทุกวันนี้ตำแหน่งเอเยนต์ถือว่ามีผลกับนักเตะอย่างมาก โดยที่เหล่าเอเยนต์จะทำหน้าที่หลายอย่าง อาทิเช่น การเจรจาเรื่องซื้อ-ขาย, การประสานงาน, การให้นักเตะของตัวเองได้สัญญาที่ดีที่สุด เป็นต้น ซึ่งนั่นก็ทำให้บางครั้งเอเยนต์อาจจะมีปัญหากับต้นสังกัดของนักเตะในความดูแลของพวกเขา

 

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

    นาร่า เองก็มีประเด็นบาดหมางกับบอร์ดบริหารของ อินเตอร์ เช่นกัน ซึ่งว่ากันว่านั่นก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ อีการ์ดี้ ผิดใจกับบอร์ดบริหารไปด้วย ตามด้วยการที่หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์โดนริบตำแหน่งกัปตันทีมไป ก่อนที่เจ้าตัวจะหายหน้าไปจากการช่วยทีมพักหนึ่ง

    แน่นอน นาร่า ไม่ได้มีทักษะการต่อรองเก่งแบบเอเยนต์ระดับโลกอย่าง จอร์จ เมนเดส หรือ มิโน่ ไรโอล่า แต่ประเด็นก็คือเธอมักจะเรียกผลประโยชน์ที่ดีที่สุดเพื่อ อีการ์ดี้ อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่มีคำว่า "ผ่อนปรน" ให้สโมสรอยู่ในหัวของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แถมบางครั้งเธอยังไปพูดในรายการต่างๆ แบบไม่สนสถานการณ์อะไรทั้งสิ้น เพียงเพื่อจะกดดัน อินเตอร์ ด้วย

 

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

    นับตั้งแต่ที่เข้ามารับหน้าที่บริหารทีม เอ็ด วู้ดเวิร์ด ก็มักจะยอมเจรจาโดยที่ทำตามข้อตกลงของเอเยนต์แบบง่ายๆ หลายครั้ง การให้ค่าเหนื่อยสูงโดยที่ไม่สนใจปัจจัยอะไรเลยจนทำให้เป็นปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น และถ้าเกิด อีการ์ดี้ มาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆ แล้วล่ะก็ งานนี้ วู้ดเวิร์ด อาจจะต้องปวดหัวหนักเลย

    – พฤติกรรมด้านลบของ อีการ์ดี้
    ถึงแม้ในฤดูกาล 2018-19 อีการ์ดี้ จะฟอร์มตกลงไปด้วยการทำได้เพียง 11 ประตู จากการลงเล่นในลีก 29 นัด แต่มันก็แทบจะไม่มีใครกังขาในฝีเท้าของเจ้าตัว การที่เขาเคยทำประตูในลีกได้ 29 ลูกในซีซั่น 2017-18, 24 ประตูในฤดูกาล 2016-17, 16 ประตูในฤดูกาล 2015-16 และ 22 ลูกในซีซั่น 2014-15 ถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวมีทักษะการทำประตูที่ยอดเยี่ยมในระดับหนึ่ง

 

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

    อย่างไรก็ตาม อีการ์ดี้ ก็มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่ววงการลูกหนังเหมือนกันว่าไม่มีวินัยมากเท่าไหร่ และมีพฤติกรรมหลายด้านที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะการที่เขาแอบคบหาดูใจกับ นาร่า ทั้งที่ฝ่ายสาวยังเป็นภรรยาของ มักซี่ โลเปซ เพื่อนร่วมทีม ซามพ์โดเรีย ของเขาในตอนนั้นอยู่ ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ถูกเปิดโปง โลเปซ ก็ขอเลิกกับ นาร่า ทันที จนกลายเป็นตำนานดราม่า "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด"

    นอกจากนี้ เขายังเคยกล้าจวก แฟนบอล อินเตอร์ หน้าตาเฉยด้วย จนทำให้สาวก "เนรัซซูรี่" บางส่วนขับไล่เขามาแล้ว ซึ่งทีมที่จะมีนักเตะแบบ อีการ์ดี้ อยู่ในทีม ก็ต้องมีกุนซือที่มีความเด็ดเดี่ยว, เข้มงวด และบริหารคนเก่งด้วย เพื่อที่จะได้คุมนิสัยของเขาเอาไว้ให้ได้ และทำให้เขาโชว์ฟอร์มเก่งออกมาโดยที่ไม่ต้องสร้างปัญหาอะไร

 

อีการ์ดี้ ดีลที่มีความเสี่ยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด

 

    ประเด็นก็คือจนถึงตอนนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถแสดงความสามารถด้านนั้นออกมาได้ดีเท่าไหร่ และถ้าเกิดเขาคุม อีการ์ดี้ ไม่อยู่แล้วล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็อาจจะเลวร้ายเกินกว่าที่หลายคนคิดก็ได้

เล่นสล็อต สร้างรายได้กันเถอะ สมัครรับทุนฟรี คลิกเลย!