จำชื่อไว้! "อี คัง-อิน" บอลทองคำหลียู20จากวังค้างคาว ลุ้นบู๊เมสซี่ยุ่นในลาลีกา

อี คัง-อิน ดาวเตะพลังโสม สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักเตะเกาหลีใต้คนแรกที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม “โกลเด้นบอล” ประจำทัวร์นาเมนท์ชิงแชมป์โลก หรือ เวิลด์ คัพ รุ่น ยู 20 หลังพา เกาหลีใต้ ทะลุถึงนัดชิงชนะเลิศ แม้จบด้วยรองแชมป์จากการพ่ายต่อ ยูเครน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ตาม

    เพลย์เมกเกอร์วัยแค่ 18 จากสโมสร บาเลนเซีย แห่ง ลา ลีกา ทำผลงานได้เฉียบขาดตลอดทัวร์นาเมนต์ นอกเหนือไปจากการซัดประตูปลอบใจให้ทีมในนัดชิงชนะเลิศที่ปราชัยต่อ ยูเครน 1-3 ที่ ลอดซ์ สเตเดี้ยม ใน เมืองลอดซ์ โดยผลงานของเขาในรายการนี้ ทำไป 2 ประตู บวกกับ 4 แอสซิสต์จาก 7 เกม ช่วยให้ทัพโสมขาว คว้ารองแชมป์อย่างเหนือความคาดหมาย 

    ทั้งนี้ อี นับเป็นผู้เล่นจากเกาหลีใต้คนแรกที่ได้รางวัลสำคัญแบบเดี่ยวๆ ในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติรายการใหญ่ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ ฟีฟ่า นับตั้งแต่ปี 2010 ที่ โย มิน-จี จากทัพ "โสมแดงสาว" รุ่น ยู 17 คว้าทั้ง "โกลเด้นบอล" หรือบอลทองคำในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยม รวมถึง "รองเท้าทองคำ" ในฐานะดาวซัลโวด้วย 

 
    ก่อนหน้านี้ ผู้เล่นที่เคยได้รับรางวัล "ลูกบอลทองคำ" ของศึก เวิลด์ คัพ ยู 20 มีดาวดังที่ก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ทั้ง ดีเอโก้ มาราโดน่า (1979), ลิโอเนล เมสซี่ (2005), เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" (2007) และ ปอล ป็อกบา (2013)  

     เราจะพาไปรู้จักไอ้หนุ่มคนนี้กัน…

1. ฝีเท้าฉาจเกินวัย ยักษ์ใหญ่จ้องเขม็ง แต่ติดค่าฉีกสัญญาบ้าเลือด!

 สำหรับ อี ซึ่งอายุน้อยสุดในทีมเกาหลีใต้ชุดนี้ โดดเด่นตั้งแต่ศึก ตูลง ทัวร์นาเมนต์ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว จนสร้างความประทับใจให้แมวมองของหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ โดยมีรายงานว่า อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กับ พีเอสวี ไอน์ดโฮเฟ่น สนใจเขาอย่างจริงจัง รวมถึง เรอัล มาดริด ด้วย

 อย่างไรก็ตาม อุปสรรคของทีมที่จ้องคว้า อี คือการที่เขามีค่าฉีกสัญญาที่แพงมหาศาลถึง 80 ล้านยูโร (ราว 2,880 ล้านบาท) เลยทีเดียว ตามสัญญานักเตะระดับซีเนียร์ที่ อนิล เมอร์ตี้ ประธานสโมสร บาเลนเซีย จับเซ็นเมื่อเดือน ก.ค. 2018

2. สเต็ปเท้าเขย่าปฐพี

 ว่ากันว่า หนึ่งในจุดเด่นของ อี คือความสามารถในการใช้เท้าที่เหลือเชื่อสุดๆ ทั้งการคอนโทรลบอล และล้อเล่นกับลูกบอลให้สยบแทบเท้า จนสร้างความอับอายให้กองหลังฝั่งตรงข้ามที่ตามประกบได้เสมอๆ 

 เขาเก่งมากในการเล่นฟุตบอลตรงพื้นที่แคบ ว่องไว รวดเร็ว หลบหลีก พลิ้วไหว ซึ่งทักษะอันเอกอุเช่นนี้เอง ทำให้ อี มักถูกวางตัวให้เป็นมันสมองในการสร้างเกมรุกให้กับทีม อย่างที่เราได้เห็นว่า เขามีเอี่ยวถึง 6 ประตูจาก 7เกมในทัวร์นาเมนต์ที่ โปแลนด์ ซึ่งสไตล์การเล่นแบบนี้ มีความคล้ายคลึงกับ ชินจิ คางาวะ อดีตเพลย์เมกเกอร์เลือดซามูไรที่เคยประกาศศักดายอดแข้งเอเชียบนแผ่นดินยุโรปกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ แมนฯ ยูไนเต็ด 

3. ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับโค้ช

 อีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของมิดฟิลด์พลังโสม คือความสารพัดประโยชน์ เขามีความยืดหยุ่นสูง สามารถเล่นตรงไหนก็ได้บนสนามตามคำสั่งโค้ช 

 เขารับบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุกให้ทีม บาเลนเซีย บี โดยใช้วิสัยทัศน์ และมันสมองในการสร้างสรรค์เกมบุก แต่ขณะเดียวกัน อี ยังสามารถถูกถ่างไปล่องลอยทางกราบในฐานะปีก หรือแม้กระทั่งถอยตัวลงมาต่ำเพื่อทำหน้าที่กองกลางตัวโฮลด์บอล ซึ่งสามารถครองบอลได้เหนียวแน่น อ่านเกมคู่ต่อสู้ แล้วสเปรย์บอลไปทั่วสนาม

 นี่คือนักเตะในฝันของผู้จัดการทีมทุกคน

4. ยังไม่สุด เก่งได้อีกเยอะ

 อี แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการด้านฝีเท้าที่รุดหน้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามรับใช้ทีมชาติ จนก้าวกระโดดไปเล่นให้ทีมรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ตั้งแต่ตอนอายุแค่ 17 ขวบเท่านั้น 

 เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว เขาติดธงทีมเยาวชนไปลุย ตูลง ทัวร์นาเมนต์ ที่ ฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นเวทีสร้างชื่อให้ยอดแข้ง เวิลด์ คลาส มาแล้วมากมาย อาทิ เธียร์รี่ อองรี รวมถึง ฮาเมส โรดริเกซ และ อี ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าตัวเองได้สำเร็จ เมื่อการร่ายลีลาจนแฟนๆ ตะลึงตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการตะบันสองประตูแจ่มๆ ใส่ สกอตแลนด์ และ โตโก

 นั่นคือผลงานของเด็กที่เพิ่งข้ามรุ่นไปติดทีมชาติซึ่งเต็มไปด้วยรุ่นพี่มากมายไปเล่นรายการใหญ่หนแรก เขาไม่มีอาการสั่นด้วยประหม่าให้เห็นแม้เพียงเสี้ยวกระผีก แสดงว่าเด็กคนนี้แน่พอตัวเลยทีเดียว 

5. เอเชียจับตา "วันเดอร์คิดหลี" ฟัด "เมสซี่ยุ่น" บนแดนกระทิง

 จากผลงานที่ยอดเยี่ยม กระทั่งได้ลากกระเป๋ากลับเข้า "วังค้างคาว" โดยถือลูกบอลทองคำในฐานะยอดแข้งศึก เวิลด์ คัพ ยู 20 ไปด้วย ทำให้มีโอกาสที่ อี จะได้สัมผัสเกมของทีมชุดใหญ่ของ บาเลนเซีย บ่อยขึ้น หลังถูกดันขึ้นมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อย พร้อมรับเบอร์ 16 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา  

 ขณะเดียวกัน ทาเคฟูสะ คุโบะ ยอดดาวรุ่งของเลือดบูชิโด เจ้าของฉายา "เมสซี่แห่งญี่ปุ่น" เพิ่งกลายเป็นข่าวฮือฮา เมื่อถูก เรอัล มาดริด กระชากตัวไปครอบครอง หลังจากได้ฝึกปรือวิทยายุทธลูกหนังที่ ลา มาเซีย ของ บาร์เซโลน่า ก่อนกลับไปเหลาฝีเท้าให้แหลมเฟี้ยวกับ เอฟซี โตเกียว 

 ข่าวบอกว่า คุโบะ วัย  อาจต้องเริ่มต้นจากการเล่นให้ทีมชุด บี ไปก่อน อย่างไรก็ตาม หากจับพลัดจับผลู ไอ้หนู "เมสซี่ยุ่น" ดันระเบิดฟอร์มในศึก โกปา  อเมริกา 2019 ที่ประเทศ บราซิล ก็มีสิทธิ์เช่นกันที่เขาจะได้โอกาสโผล่ขึ้นมาสัมผัสเกมให้ทีมรุ่นใหญ่บ้าง 

 หากนัดนั้น ดันเป็นการพบกันระหว่าง "ราชันชุดขาว" กับ "ไอ้ค้างคาว" รับรองว่า ซีกโลกตะวันออกคงได้ตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจแน่นอน