แมนฯซิตี้ จัดการคว้าตัว โรดรี้ กองกลางเชิงรับจากแอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวเป็นสถิติสโมสร ถึง 62.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,504 ล้านบาท) เพื่อนำมาเป็นตัวแทนของแฟร์นานดินโญ่ ที่อยู่ในช่วงโรยรา
การมาของโรดรี้ นั้น แน่นอนมันย่อมส่งผลให้แมนฯซิตี้มีขุมกำลังแดนกลางที่แน่นขึ้น และปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เล่นในตำแหน่งนี้มีบทบาทสำคัญที่หลายทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกให้ความสำคัญ
ซีซั่นที่ผ่านมา เชลซี คว้าจอร์จินโญ่ แมนฯยูไนเต็ด คว้า เฟร็ด อาร์เซน่อลดึง ลูคัส ตอร์เรยร่า และลิเวอร์พูล เซ็นฟาบินโญ่ เข้ามาร่วมทีม ซึ่งนักเตะทั้งหมดนี้ต่างเป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์เชิงรับทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม คนที่โชว์ฟอร์มได้เด่นชัดเจนสุด คงหนีไม่พ้น ฟาบินโญ่ อีกทั้ง ลิเวอร์พูล คือคู่แข่งแย่งแชมป์กับแมนฯซิตี้ โดยตรง
กว่าที่ฟาบินโญ่จะได้ลงสนามเกมแรกในสีเสื้อลิเวอร์พูล เขาต้องรอถึงเดือนตุลาคม และฟอร์มในช่วงแรกไม่ค่อยดีนักแต่ก็ค่อยๆยกระดับตัวเองขึ้นมาจนเป็นกำลังหลักบนแดนกลางของหงส์แดง
ส่วนโรดรี้เอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็หวังว่าแข้งสแปนิชรายนี้จะเป็นส่วนเติมเต็มบนแดนกลางหลังซีซั่นที่แล้ว เรามักจะเห็นอิลคาย กุนโดกัน ลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 6 ซึ่งมันไม่ใช่ตำแหน่งที่กุนโดนกันถนัดนัก
ในสกู๊ปนี้ ทีมงาน Siamsport ได้วิเคราะห์ถึงสถิติข้อมูลเชิงลึกของทั้งฟาบินโญ่ และ โรดรี้ ซึ่งบทสรุปนั้นคือแข้งแซมบ้ามีผลงานที่ดีกว่าเล็กน้อย แต่จะเป็นเพราะอะไร ไปดูกัน
โรดรี้ มีสไตล์การเล่นคล้ายกับ เซร์คิโอ บุสเก็ต ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่นเก่าของกวาร์ดิโอล่า เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา โรดรี้มีตัวเลขการตัดบอล(Intercept) อยู่ที่ 5.52 ต่อเกม ซึ่งในรายของฟาบินโญ่ มีตัวเลขที่ต่ำกว่าโรดรี้ โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 4.49 ครั้ง
อย่างไรก็ดี มันอาจไม่ใช่ตัวเลขที่จะฟันธงได้ดีนักเมื่อทั้งแอต.มาดริดและลิเวอร์พูล มีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกัน
สำหรับลิเวอร์พูล คือทีมที่มีเปอร์เซ็นการครองบอลสูงสุดเป็นอันดับสามของพรีเมียร์ลีก ขณะเดียวกัน แอต.มาดริด อยู่ในอันดับ 10 ของ ลา ลีก้า กล่าวคือ แผนการเล่นของดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือตราหมี เน้นในสไตล์ตั้งรับ มันจึงทำให้ค่าการตัดบอลของโรดรี้ มีมากกว่าฟาบินโญ่
ในเรื่องของการผ่านบอล โรดรี้ ทำได้ดีกว่าฟาบินโญ่ ชัดเจน แข้งสแปนิช มีเปอร์เซ็นต์จ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 92.6% ด้าน ฟาบินโญ่ มีเพียง 87.7%
ถึงกระนั้น หากมองลึกลงไป ฟาบินโญ่ มีตัวเลขการผ่านบอลไปแดนหน้ามากกว่าโรดรี้ อีกทั้งการผ่านบอลเข้าถึงกรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้ามก็มีมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่การผ่านบอลของโรดรี้คือการจ่ายบอลระยะสั้นๆ ไม่มีลูกพลิกแพลงอะไรมาก มีส่วนร่วมน้อยในเกมบุก
เรารู้อยู่แล้วว่า แอต.มาดริด ไม่ใช่ทีมที่ครองบอลมากนัก ทำให้โรดรี้มักจะเล่นบอลแบบปลอดภัยมากกว่า ในทางตรงกันข้าม ฟาบินโญ่กลับมีส่วนร่วมกับเกมบุกลิเวอร์พูลทั้งๆที่เล่นในตำแหน่งตัวรับ
สิ่งที่น่าจะบ่งบอกว่าทำไมฟาบินโญ่ถึงทำได้ดีกว่าโรดรี้ คือในแง่ของการช่วยเพื่อนทำประตู เรามาวิเคราะห์จากตัวเลขที่คาดว่าจะทำแอสซิสต์(xA)ต่อเกม และ การจ่ายบอลแบบคีย์พาส(xGChain90)ต่อเกม
xGChain90 เป็นตัวเลขชี้วัดที่ซับซ้อนแต่มันน่าสนใจกว่าค่า xG แบบธรรมดา ค่า xGChain90 นั้นจะครอบคลุมการครองบอลครองผู้เล่นที่มีส่วนร่วมเอาไว้ด้วย ซึ่งมันเป็นเครื่องมือชี้วัดที่ยอดเยี่ยมในการวัดความสามารถคุณสมบัติที่ลึกลงไป
xGBuildup90 คือ ค่าการมีส่วนร่วมก่อนหน้าที่ทีม จะได้ประตู
A90 คือ ค่าการแอสซิสต์ต่อเกม
xA90 คือ ค่าคาดการณ์ในการแอสซิสต์ต่อเกม
KP90 คือ การผ่านบอลสู่การได้ประตูต่อเกม
xA90 คือ ค่าคาดการณ์ทำแอสซิสต์ต่อเกม
KP90 คือ การผ่านบอลที่นำไปสู่การได้ประตูต่อเกม
จากรูปเห็นได้ชัดว่า แต่ละค่าของฟาบินโญ่ในการวิเคราะห์นี้ มีเหนือกว่าโรดรี้พอสมควร
ในขณะที่ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคน อาจต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่มันก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นผลดีสำหรับทีม
สำหรับลิเวอร์พูล ฟาบินโญ่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความแม่นยำในการแย่งบอลมา และยังสามารถเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ดีมากๆ นอกจากนี้แข้งบราซิเลี่ยนยังเรียนรู้จากแท็คติคของเจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ดีเกินคาด
ขณะเดียวกัน โรดรี้ อาจต้องเผชิญแรงกัดดันจากค่าตัวมหาศาลเช่นเดียวกับเฟร็ด และ จอร์จินโญ่ ที่ต่างต้องเผชิญมาแล้ว
ที่แอนฟิลด์ ฟาบินโญ่ ไม่มีแรงกดดันเหมือนกับโรดรี้อีกต่อไปและซีซั่นหน้าเป้าหมายแชมป์ลีกคือสิ่งที่ลิเวอร์พูลต้องการ แม้การลงทุนหนักของซิตี้ต่อโรดรี้ที่คาดหวังจะนำมาเป็นคีย์แมน แต่ดูเหมือนว่าตำแหน่งหมายเลข 6 ของฟาบินโญ่ จะดูดีกว่าโรดรี้ในซีซั่นหน้า