ลาป๊อร์กต์ ฟันเฟืองที่หายไปซึ่งอาจส่งผลเสียกับ แมนฯ ซิตี้ 1

ลาป๊อร์กต์ ฟันเฟืองที่หายไปซึ่งอาจส่งผลเสียกับ แมนฯ ซิตี้

ตอนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องแยกทางกับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กองหลังประสบการณ์สูงชาวเบลเยียมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลายคนก็คิดว่ามันไม่น่าจะส่งผลกระทบกับ “เรือใบสีฟ้า” มากนัก เพราะถึงแม้เขาจะมีความเป็นผู้นำสูงและมีประสบการณ์ดี แต่ซีซั่นก่อนเจ้าตัวก็ได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 17 นัด ขณะเดียวกัน แมนฯ ซิตี้ ก็ยังมีเซนเตอร์แบ็กฝีเท้าดีอย่าง เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ให้ใช้งานอีก

  อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องได้รับข่าวร้าย หลังจากที่ ลาป๊อร์กต์ ได้รับบาดเจ็บตรงกระดูกอ่อนบริเวณหัวเข่าจากจังหวะที่ปะทะกับ อดัม เว็บส์เตอร์ นักเตะของ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน โดยอาการของเขารุนแรงจนถึงขนาดต้องถูกส่งไปรับการผ่าตัดเลย

ลาป๊อร์กต์ ฟันเฟืองที่หายไปซึ่งอาจส่งผลเสียกับ แมนฯ ซิตี้

   ถึงแม้ว่าการรับมีดหมอจะเสร็จสิ้นลงด้วยดี แต่มันก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ลาป๊อร์กต์ จะต้องพักนานแค่ไหน ซึ่งการไร้เงาของดาวเตะชาวฝรั่งเศสก็ถือเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากของ แมนฯ ซิตี้ เพราะเขาคือคนที่ทำผลงานได้โดดเด่นจนเป็นกองหลังที่ทีมขาดไม่ได้ไปแล้ว ซึ่งบรรดาสถิติของเขาใน พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2018 คือสิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี

   – การเข้าสกัดสำเร็จ

ลาป๊อร์กต์ ฟันเฟืองที่หายไปซึ่งอาจส่งผลเสียกับ แมนฯ ซิตี้ 2

ลาป๊อร์กต์ ฟันเฟืองที่หายไปซึ่งอาจส่งผลเสียกับ แมนฯ ซิตี้

  นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2018 นักเตะที่เข้าสกัดแย่งบอลได้มากที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ คือ แฟร์นันดินโญ่ กองกลางชาวบราซิเลียนที่ทำไป 73 ครั้ง ตามมาด้วย แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่ทำไป 64 หน

 ทั้งนี้ ลาป๊อร์กต์ ครองอันดับ 3 ในชาร์ตนี้ ร่วมกับ ไคล์ วอล์คเกอร์ และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ หลังจากที่ทั้งหมดต่างก็เข้าสกัดแย่งบอลสำเร็จไป 54 หน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเขาคือ "เซนเตอร์แบ็กอาชีพ" ของ แมนฯ ซิตี้ ที่เข้าสกัดได้แม่นยำมากที่สุดเมื่อนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2018 เป็นต้นมา

 จริงอยู่ว่า วอล์คเกอร์ โยกเข้ามาเป็นเซนเตอร์แบ็กได้ แต่การทำอย่างนั้นก็จะถือว่าเสี่ยงพอตัวเหมือนกัน ดังนั้นการหายไปของ ลาป๊อร์กต์ ในช่วงนี้ก็อาจจะส่งผลกับเกมรับของ แมนฯ ซิตี้ ในระดับหนึ่ง

 – การชนะการดวลลูกกลางอากาศ

ลาป๊อร์กต์ ฟันเฟืองที่หายไปซึ่งอาจส่งผลเสียกับ แมนฯ ซิตี้

  หนึ่งในปัจจัยสำคัญของคนเป็นกองหลังคือต้องดวลลูกกลางอากาศกับคู่แข่งได้ดี เพราะถ้าสามารถเอาชนะการดวลลูกกลางอากาศได้มันก็จะทำให้ทีมได้ประโยชน์ทั้งด้านเกมรับที่ป้องกันการเสียประตู และเกมบุกที่มีโอกาสโหม่งทำประตู หรือโขกบอลให้เพื่อนมีลุ้นทำประตู ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งทางร่างกายอย่างมาก

 ถึงกระนั้น ที่ผ่านมา ลาป๊อร์กต์ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเขาเป็นนักเตะของ แมนฯ ซิตี้ ที่ชนะการดวลลูกกลางอากาศมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปีก่อน ด้วยจำนวน 112 ครั้ง โดยอันดับ 2 คือ แฟร์นันดินโญ่ ที่จำนวน 106 หน

 ถ้าเทียบกับเฉพาะนักเตะในตำแหน่งเกมรับด้วยกันแล้วนั้น ก็ตัองบอกว่าผลงานของ ลาป๊อร์กต์ ทิ้งขาดคนอื่นแบบแทบไม่เห็นฝุ่น โดยแนวรับอันดับสองที่ชนะการดวลลูกกลางอากาศมากที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ ได้แก่ วอล์คเกอร์ ที่ทำไป 72 ครั้ง ตามมาด้วย จอห์น สโตนส์ ที่จำนวน 71 หน และ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ด้วยจำนวน 61 ครั้ง

 – การตัดบอลและการบล็อก

ลาป๊อร์กต์ ฟันเฟืองที่หายไปซึ่งอาจส่งผลเสียกับ แมนฯ ซิตี้

  บางครั้งการตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งเสียบก็จะช่วยทีมได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงจุดนี้ ลาป๊อร์กต์ ก็เป็นอันดับ 1 ของทีม หลังจากที่เขาตัดบอลได้ทั้งหมด 58 ครั้ง ขณะที่อันดับ 2 คือ แฟร์นันดินโญ่ ที่ทำไป 54 หน

 ขณะที่ด้านการบล็อกนั้น ดาวเตะเลือดน้ำหอมก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เพราะถ้านับเฉพาะฤดูกาลก่อน เขาก็อยู่ถูกที่ถูกเวลาจนทำให้สามารถบล็อกลูกยิงของคู่แข่งในลีกได้ 10 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดของทีม เทียบเท่ากับ ก็องปานี ด้วย

เล่นสล็อต สร้างรายได้กันเถอะ สมัครรับทุนฟรี คลิกเลย!