มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ? 1

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

เหตุการณ์ที่ ซาดิโอ มาเน่ ตบะแตกเพราะไม่พอใจ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเกมที่ ลิเวอร์พูล ถล่ม เบิร์นลี่ย์ 3-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ยังคงเป็นที่พูดถึงกันแม้ว่าจะมีเกมพักเบรกทีมชาติมาขึ้นอารมณ์คุกรุ่นเอาไว้ แต่ในสัปดาห์นี้เกมพรีเมียร์ลีก กลับมาตะบันกันอีกรอบ ทำให้หลายคนจับตามองทั้งสองคนว่าจะมีเรื่องดราม่าเกิดขึ้นอีกหรือไม่

    แน่นอนว่าหลักใหญ่ใจความของเรื่องนี้พุ่งไปที่ "คิง ออฟ อียิปต์" ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยส่งบอลให้ มาเน่ ทั้งๆ ที่บางจังหวะ ดาวเตะชาวเซเนกัล อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย แต่แทนที่ ซาลาห์ จะป้อนบอลให้เขา แต่ดันทะลึ่งยิงเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ มาเน่ หมดความอดทนกับเพื่อนร่วมทีมจากกาฬทวีป

    ฉะนั้นเรื่องที่น่าสนใจก็คือ ซาลาห์ เป็นนักเตะที่ "เห็นแก่ตัว" หรือเปล่า ? งานนี้คงต้องมาประเมินกันดู เพราะไม่แน่ "บังโม" อาจจะไม่ได้เป็นแข้งละโมบอย่างที่ อดีตดาวเตะ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน หรือหลายๆ คนคิด ก็เป็นได้ !!!!???

– ซาลาห์ เล่นเป็นทีมมากกว่าที่คิด ?

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ? 2

    ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาล 2018-19 โดย "หงส์แดง" จบอันดับ 2 ตามหลัง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น แน่นอนว่าฟอร์มระเบิดเถิดเทิงของทีมส่วนหนึ่งมาจาก 3 ประสานมหาประลัย ซาลาห์, มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

    เมื่อลองเช็คสถิติการยิงประตูรวมของ 3 หอก "หิน เหล็ก ไฟ" (SMF) พวกเขาส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายคู่แข่งเบ็ดเสร็จจำนวน 56 ประตู โดย ซาลาห์ กับ มาเน่ ยิงกันไปในเกมลีกคนละ 22 ประตู ครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วม (มี ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง แจมด้วย) 

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

    แน่นอนว่าพลังการจบสกอร์ของทั้ง 3 หน่อไม่มีอะไรต้องสงสัย แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงแนบแน่นอยู่หรือเปล่าล่ะ ? สิ่งแรกและอาจจะเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ ทั้งสามประสานช่วยแอสซิสต์ให้กันและกันรวม 9 แอสซิสต์เท่านั้น ขณะที่ในรายของ ซาลาห์ ใจกว้างยิ่งกว่าใครเนื่องจากสถิติระบุว่าเขาส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมมากกว่า มาเน่ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

    "บังโม" ผ่านบอลให้กับสองคู่หูแดนหน้ามากกว่า มาเน่ ด้วยซ้ำ (ซาลาห์ ผ่านบอล 258 ครั้ง ส่วน มาเน่ 210 ครั้ง) ขณะที่ ฟีร์มีโน่ เป็นจอมแอสซิสต์สำหรับ 3 แนวรุกของทีมโดยมีส่วนกับการทำ 5 ประตูระหว่าง ซาลาห์ กับ มาเน่ ขณะที่ สตาร์ชาวอียิปต์ มีส่วนทำ 3 แอสซิสต์ระหว่าง 3 ประสาน 

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

    ด้านสตาร์ทีมชาติเซเนกัล อาจจะทำผลงานไม่ค่อยโดดเด่นเมื่อแอสซิสต์ระหว่าง "เอสเอ็มเอฟ" เพียง 1 ประตู ซึ่งเป็นการส่งให้ ซาลาห์ ยิงซะด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้ มาเน่ จะมีจำนวนแอสซิสต์ไม่เยอะ แต่เขาถือเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้กับ ซาลาห์ มากถึง 20 ครั้งเลยทีเดียว

– ฟีร์มีโน่ ศูนย์กลางแนวรุก 

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

    ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เริ่มต้นฤดูกาล 2019-20 ด้วยการเก็บชัยชนะ 4 เกมรวด และรั้งจ่าฝูงลีกสูงสุดเมืองผู้ดีในเวลานี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะโสภาสถาพรจนกระทั่งมาเกิดเหตุที่ มาเน่ ตบะแตกตอนที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมปะทะ เบิร์นลี่ย์ แต่เขามีเหตุผลหรือเปล่าที่ทำแบบนี้ ? 

    จากสถิติแสดงให้เห็นว่า  ซาลาห์ ผ่านบอลให้  ฟีร์มีโน่ 10 ครั้ง มากกว่าที่ทำกับ มาเน่ และยังไม่เคยสร้างโอกาสทำประตูให้ ดาวเตะเซเนกัล เลยด้วย โดยเขาสร้างโอกาสทำประตูให้ ฟีร์มีโน่  3  หน  ขณะเดียวกัน "บังโม" อาจจะเกิดความรู้สึกผิดหวังในตัว มาเน่ เช่นกัน เพราะเขาได้รับการผ่านบอลจากเพื่อนร่วมกาฬทวีปเพียงแค่ 5 ครั้งในซีซั่นนี้ 

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

    กระนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับสถิติการผ่านบอลของ ฟีร์มีโน่ ต้องบอกว่าทั้ง มาเน่ และ ซาลาห์ ถือว่าน่าผิดหวัง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้สามารถอธิบายได้เพราะทั้งคู่เล่นอยู่ทางกราบคนละฝั่งสนาม ขณะที่ "บ็อบบี้" มีหน้าที่สำคัญนั่นก็คือการป้อนบอลให้กับสองสตาร์กาฬทวีปเข้าไปเจาะตาข่ายคู่แข่ง

    อย่างไรก็ตามหากมองในมุมของกองหน้าสิ่งที่ ดาวเตะชาวแดนมัมมี่ ทำก็คือสัญชาตญาณของคนที่มีหน้าที่ยิงประตู เมื่อมีโอกาสก็จำเป็นต้องซัดทันที แต่หากมองมุมกลับถ้า "บังโม" มีน้ำใจสิ่งที่ได้รับนอกจากจะเป็นสกอร์แล้ว ยังซื้อใจเพื่อนร่วมทีมก็ได้ 

– คาดการณ์ 11 ตัวจริง ลิเวอร์พูล ปะทะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

    สำหรับแมตช์เปิดรังแอนฟิลด์รับการเยือนของ "สาลิกาดง" แน่นอนว่า คล็อปป์ หมดสิทธิ์ใช้งาน อลีสซง เบ็คเกอร์ นายด่านจอมหนึบที่ยังอยู่ในช่วงพักฟื้นร่างกายจากอาการบาดเจ็บน่อง หน้าที่เฝ้าเสายังคงเป็นของ อาเดรียน ต่อไป ส่วนข่าวดีก็คือทีมจะได้ นาบี เกอิต้า กลับมาฟิตอีกครั้ง ซึ่งทำให้ "หงส์แดง" มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในแดนกลาง

    ดาวเตะชาวกีนี ไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกแม้แต่นัดเดียวในฤดูกาลนี้เนื่องจากบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา แต่ตอนนี้กลับมาฟิตสมบูรณ์และลงฝีกซ้อมเต็มที่กับต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว แต่คาดว่าคงจะเป็นตัวสำรองในแมตช์นี้ 

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

    สำหรับแดนกลางมีความเป็นไปได้สูงที่ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ซึ่งโชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมกับทีมชาติฮอลแลนด์ และยิงประตูได้ 2 ลูกในเกมที่พบกับ เยอรมนี กับ เอสโตเนีย ถูกจับพัก เพราะ คล็อปป์ น่าจะเลือก เจมส์ มิลเนอร์ ที่สดกว่า (ไม่ได้เล่นกับทีมชาติ) ลงปะทะกับทีมเก่า  พร้อมกับ ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 

    ในส่วนของแผงแบ็กโฟร์นั้นยังคงเป็น 4 มหาประลัยที่ลงเล่นร่วมกันในช่วง 3 แมตช์ที่ผ่านมา โดยคู่เซนเตอร์แบ็กยังคงเป็นหน้าที่ของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจเอล มาติป ซึ่งไม่ได้เล่นทีมชาติเนื่องจากอำลาการเล่นให้ แคเมอรูน ไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2017 

มองให้ลึก ! จริงไหม ซาลาห์ เห็นแก่ตัว ?

    ขณะที่แบ็กขวายังเป็นหน้าที่ของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แม้นักเตะเพิ่งจะช่วย อังกฤษ เต็มเวลา 90 นาทีเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แต่ คล็อปป์ น่าจะไว้วางใจลูกหม้อรายนี้ ฉะนั้นคงไม่มีเรื่องเซอร์ไพรส์ส่ง โจ โกเมซ ลงเล่นเป็นตัวจริงแน่นอน ส่วนฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จองสัมปทานยาว

     ส่วนแนวรุกยังคงเป็นหน้าที่ของ  3 ประสาน "เอสเอ็มเอฟ" ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ แม้ว่าในรายของ 2 คนแรกจะเกิดดราม่าฆ่าพี่ในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ คล็อปป์ ยังเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของทั้งคู่ 

ผู้รักษาประตู : อาเดรียน

กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจเอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

กองกลาง : เจมส์ มิลเนอร์ , ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

กองหน้า : ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 

เล่นสล็อต สร้างรายได้กันเถอะ สมัครรับทุนฟรี คลิกเลย!