สู้ด้วยใจสปิริตทีมอย่างเดียวไม่พอ ล่าสุดประธานสโมสร ”ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ทีมในลีกสูงสุด ขอพึ่งพาให้สิ่งศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองประจวบฯ ด้วยการบนบาลศาลเก่าช่วยดลบันดาลให้ทีมคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่าง ลีก คัพ มาครองให้ได้ในเกมที่จะชิงกับบุรีรัมย์ เสาร์ 28 ก.ย. 62 นี้ ยอมรับเป็นรองทีมดีกรีแชมป์ 5 สมัยเยอะ แต่ประกาศสู้ตาย ส่วนอนาคตของ ”โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล รอคุยกันอีกครั้งหลังจบฤดูกาล แย้มอยู่ต่อหรือไปขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ 2 ฝ่าย ฤดูกาลหน้าขอจำกัดจุดอ่อนด้วยการหากองหน้าประเภทโป้งปิดปัญชีมาใช้งานเพื่อให้เป็นอาวุธเด็ดของทีม

    มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการลูกหนังไทยสำหรับทีม ''ต่อพิฆาต'' พีที ประจวบ เอฟซี ที่ล่าสุดสถานการณ์ในลีกสูงสุดอยู่อันดับ 11 มี 31 แต้มจาก 25 นัด แม้ผลงานในไทยลีกจะไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนซีซั่นที่ผ่านมาที่พวกเขาก้าวมาเล่นลีกสูงสุดได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร  แต่ทว่าทำเซอร์ไพรส์ผ่านเข้าชิงฟุตบอลถ้วยอย่าง ลีก คัพ 2019 ได้เป็นหนแรกของสโมสร โดยนัดชิงจะพบกับบุรีรัมย์ วันเสาร์ที่ 28 ก.ย. 62 นี้ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม 

    ล่าสุด สยามกีฬาได้สอบถามไปยัง ''นายกเกียร์'' ทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ ประธานสโมสรพีที ประจวบ กับการคาดหวังถ้วยแชมป์ลีก คัพ โดย ''นายกเกียร์'' กล่าวว่า '' นอกเหนือจากเราต้องเตรียมทีมกันให้ดีชนิดสู้กันแบบเต็มที่สุดหัวใจแล้ว เรื่องขวัญกำลังใจก็เป็นสิ่งสำคัญนอกเหนือจากที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้แล้วหากได้แชมป์จะมอบเงินรางวัล 5 ล้านบาท ให้นักเตะไปแบ่งกันทั้งหมด 

    นอกจากนี้ยังถือเป็นเรื่องปกติกับคำว่าขวัญและกำลังใจ ล่าสุดผมได้บนไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายที่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไว้ อาทิ ศาลหลักเมือง, ปลัดขิกฯลฯ ขอพรให้ช่วยดลบันดาลให้ทีมเราคว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ มาครองให้ได้ เรื่องนี้เป็นขวัญกำลังใจซึ่งปกติเราก็ทำมาตลอดไม่ว่าจะแข่งขันรายการอะไรก็ตาม 

    ยอมรับว่าการเจอกับบุรีรัมย์นั้นเป็นงานยากแน่นอน เพราะเราเป็นรองเขาพอสมควร โดยเฉพาะกับคำว่าประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลถ้วย เขามีดีกรีแชมป์รายการนี้ถึง 5 สมัย และเข้าชิงถึง 8 ครั้ง

    แต่อย่าลืมว่าเราที่เป็นรองจะเล่นกันไม่กดดันอะไร ผมยังเชื่อนิยามของฟุตบอลที่ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ ผมยืนยันแทนทีม ฝากไปถึงแฟนบอลของเราทุกคนเลยว่าเป้าหมายของเราคือหวังจะเป็นแชมป์รายการนี้'' 

    ผู้สื่อข่าวยังถามถึงอนาคตของ ''โค้ชวัง'' ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ว่าจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ ''นายกเกียร์'' กล่าวว่า ''เรื่องนี้ตามมารยาทแล้วทีมจะคุยกับตัวโค้ชวังหลังจบฤดูกาล คงบอกได้แค่ว่าขึ้นอยู่กับความพอใจของ 2 ฝั่ง แต่ ณ เวลานี้หน้าที่ในการคุมทีมยังเป็นของ ''โค้ชวัง'' อยู่ เราไม่ต้องการให้เขาไม่มีสมาธิ อยากให้เขามุ่งมั่นกับการทำงานให้ดีที่สุดก่อน จบฤดูกาลค่อยคุยเรื่องอนาคตของทีมกับเขาอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ นั้นปีหน้าเราจะเสริมทัพด้วยการหากองหน้าต่างชาติประเภทโป้งปิดบัญชีคาดหวังได้เรื่องจบสกอร์มาเสริมเขี้ยวเล็บให้ทีมแน่นอน หลังจากปีนี้จุดนี้เป็นจุดอ่อนของทีมเรา หลังจากเราได้ปล่อยทั้ง ลอนซาน่า ดูมบูย่า กับ โจนาทาน เฮส ออกไป ทีมเลยขาดตัวจบสกอร์ที่คาดหวังได้ไปนั่นเอง'' 

    ภาพข่าวจาก PT Prachuap FC