เกมที่ อินโดนีเซีย ประเดิมกลับมาสู่ทัวนาเม้นต์ฟุตบอลโลกอีกครั้งด้วยการแพ้ มาเลเซีย 2-3 ดูเหมือนความขลัง ดุดัน น่ากลัวในสนาม เสนายัน เดิม หรือเปลี่ยนชื่อมาเป็น เกราโร่ บุงการ์โน่ เมื่อปี 2001 ลดลงไปไม่น้อย
หากใครจำได้ พวกเขาโดนแบน 2 ปีจนอดเล่นฟุตบอลโลกหนก่อน ทั้งที่จับฉลากแบ่งสายร่วมกลุ่มกับไทย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
วันอังคารที่ 10 ก.ย.62 ไทยต้องออกไปเยือน เสนายัน อีกครั้ง วันนี้ ความน่ากลัวสำหรับทีมเยือน ยังเต็มเปี่ยมเสมอ แม้จะเปลี่ยนชื่อมากว่า 10 ปีแล้วก็ตาม เราพาไปย้อนเรื่องราวของฟุตบอลไทยกับสนามแห่งนี้ ที่มีทั้งเสียงเฮ สมหวัง น้ำตา ความผิดหวัง ผสมปนเปกันไป
ปาเนนก้าของ "เดอะ โอ่ง" พาไทยแชมป์อาเซียน
เหตุการณ์บาดหัวใจแฟนบอลอินโดนีเซีย ที่สนามเสนายัน เกิดขึ้นในค่ำคืนก่อนปีใหม่ 29 ธ.ค. 2002 นัดชิง ไทยเกอร์ คัพหรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในยุคนี้ เมื่อ ไทย ลงสนามดวลกับเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ท่ามกลางแฟนบอลนับแสนคน
ดูเหมือนจะเป็นเกมที่แสนง่ายของไทย นำก่อน 2-0 แต่เล่นไปเล่นมา เจอเสียงเชียร์กดดัน อิเหนา ตามตีเสมอ 2-2 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ
ไคลแมกซ์ ไปอยู่ที่ "เดอะโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน ที่ยิงคนสุดท้าย ถ้าชนะไทยซิวแชมป์สมัยที่ 3 ทันที งานนี้ ดุสิต ชิพบอลเหนือๆ ด้วยซ้ายสไตล์ปาเนนก้า เข้ากลางประตู พร้อมท่าดีใจหล่อๆ จนหลายคนถาม หัวใจ "พี่โอ่ง" มีหิน หรือเหล็ก ผสมอยู่กันแน่
พักครึ่ง 30 นาที & ตั๋วแสนใบหายเกลี้ยง
เรื่องราวหฤโหด ของสนามเสนายัน กับฟุตบอลไทยเกิดขึ้นอีกหน เมื่อวันที่ 18 ต.ค.1997 หรือปี 2540 ในเกมนัดชิงชนะเลิศซีเกมส์ ที่ไทยชนกับเจ้าภาพ
แน่นอน ตั๋วขายเกลี้ยง 1 แสนใบเร็วเหมือนแจก เพราะแฟนบอลเจ้าภาพนัดกันหยุดงาน หวังล้มเบอร์ 1 อาเซี่ยน ในยุคนั้นอย่างไทยให้ได้ ขณะที่นักเตะไทย เสียวสันหลังเหมือนกัน ประกาศถ้ามีเหตุจลาจล จะวอร์คเอ้าต์ทันที
นัดนี้ไทยนำก่อน 1-0 จากชายชาญ เขียวเสน แต่ช่วงที่แข้งไทยดีใจหลังซัดเข้าไป หรือจังหวะ หวดลูกเตะมุม มีอิฐ ขวดน้ำ ปาลงมาใส่นักเตะไทย จนช่วงพักครึ่ง เจ้าหน้าที่ต้องเคลียร์แฟนบอลกว่าครึ่งชั่วโมงถึงจะกลับมาเตะได้ แถมนอกสนามก็พังประตูหวังเข้ามาดูเกมนี้ให้ได้ สุดท้าย เสมอกัน 1-1 ใน 120 นาที ตัดสินด้วยการยิงจุดโทษไทยชนะ 4-2 คว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ได้สำเร็จ
จำไม่ลืม ใบแดง "อุ้ม" เล่น 12 นาที
ย้อนกลับไปเมื่อ ซีเกมส์ ครั้งที่ 23 วันที่ 13 พ.ย. 2554 เกมที่แข้งไทยต้องการชัยชนะจากเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ในรอบแรกเพื่อจะลุ้นเข้ารอบรองฯ ต่อไป
เกมนี้ ได้ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายตัวเก่ง เสร็จสิ้นภาระกิจจากการรับใช้ชาติไทยชุดใหญ่แพ้ ซาอุฯ 0-3 ทัวนาเม้นต์ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โดยเจ้าตัวเพิ่งใบแดงช่วงท้ายเกม ในวันที่ 11 พ.ย. หรือ 2 วันก่อน โดย "อุ้ม" บิน มาถึงอินโดฯ ในช่วงเช้าก่อนวันเตะ
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก เมื่อ น.12 ธีราทร โดนใบเหลือง ที่ 2 ตามด้วยใบแดง ไล่ออกจากสนามโดยเหลืองแรกก่อนหน้านี้ไม่กี่อึดใจผู้ตัดสินมองว่า ธีราทร ไปเตะบอลทิ้ง ทำให้ไทยเหลือ 10 คน เท่ากับว่า "อุ้ม" โดน 2 ใบแดงใน 3 วัน พร้อมกับจบเกม ไทยแพ้ 1-3 ตกรอบ
แถมท้ายเกม ไทย ได้อีก 1 แดง ของเอกสิทธิ์ ฉาวบุตร เหลือ 9 คน จอดสนิทเพียงรอบแรกอย่างบอบช้ำ และหลังทัวนาเม้นต์นี้ ธีราทร โดนติติงจากแฟนบอล และโซเชียล จนทำให้เจ้าตัวไปปรึกษาครอบครัวอยากจะลาทีมชาติ แต่สุดท้าย คุณพ่อของ "อุ้ม" กระตุ้นให้สู้ จนกลายเป็น ธีราทร คนใหม่ ที่แข็งแกร่งในวันนี้
ชนะถิ่นอิเหนา 2008 "มุ้ย" พิฆาต
18 ธ.ค.2008 หรือ 11 ปีก่อนเป็นชัยชนะเกมล่าสุดของทีมชาติไทยที่มีเหนือ อินโดนีเซีย ในถิ่นอิเหนา ณ สนาม เกราโร่ บุงการ์โน่ หรือเสนายัน ในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพรอบตัดเชือก จากการทำประตูของ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวรุ่งพุ่งแรง ณ ขณะนั้น ตั้งแต่ น.6 ก่อนกลับเมืองไทย นัดที่ 2 จะย้ำแค้นอีก 2-1 แต่การกลับไปเยือนอังคารนี้ ธีรศิลป์ ไม่มีชื่อติดไปด้วยเพราะบาดเจ็บ
ขณะที่เกมล่าสุดที่ไทยไปเยือนไม่ได้เตะที่ เสนายัน โดยในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก หวดกันวันที่ 14 ธ.ค.2559 ไทยไปเยือนโดยเล่นที่สนาม ปากันซารี่ ซึ่ง ไทย นำก่อน 1-0 แต่โดนยิงแซง 2-1 สุดท้าย พ่ายแพ้ออกมาก่อนเกมที่ 2 ไทยชนะ 2-0 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
สถิติ ก็ยังเป็นสถิติ ที่พร้อมจะถูกทำลายลง แน่นอน 3 คะแนนนอกบ้านของไทย คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ อินโดฯ แพ้ เกมนี้เท่ากับตกรอบไปครึ่งตัว ส่วนไทย ถ้าไม่ชนะ เหนื่อยหนักในการลุ้นเข้ารอบต่อไปชัวร์
3 คะแนน จะออกฝั่งไหน หรือ แบ่งแต้มกันไป เชียร์กันครับ
"โยเล็ก เมืองน่าน"