"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์ 1

"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์

หลังจากที่ต้องกรำศึกหนักถึง 120 นาทีแถมต้องดวลจุดโทษกว่าจะคว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2019 ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับปัญหาสำคัญก็คือการเตรียมทีมสำหรับดวล เซาธ์แฮมป์ตัน ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์ ในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคมนี้ เพราะพวกเขามีการเตรียมทีมไม่ถึง 3 วัน

    แน่นอนว่าการไปเยือนถิ่นนักบุญแดนใต้นั้น "หงส์แดง" ต้องพยายามตีปีกบินสูงคว้า 3 คะแนนให้ได้เพื่อหวังกดดัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งรั้งอันดับ 1 กับ 2 ในเวลานี้ ที่สำคัญหากได้ชัยชนะก็จะยิ่งกดดันทีมบิ๊กซิกซ์ในการเบียดลุ้นแชมป์ลีกอีกด้วย

     ขณะที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งเพิ่งจะเปิดซีซั่นไม่สง่างามเมื่อแพ้ยับไม่นับญาติต่อ เบิร์นลี่ย์ สามตุง จำเป็นต้องกลับมาเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อเรียกศรัทธาจากสาวก "เดอะ เซนต์ส" ฉะนั้นในแมตช์นี้น่าจะมี 5 ปัจจัยสำคัญที่จะมีอิทธิพลต่อเกมนี้อย่างมาก

 

1.  หัวจิตหัวใจแห่งผู้ชนะ
    ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์รายการใหญ่ 2 จาก 3 รายการ หลังจากที่พวกเขาผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากนั้นก็เพิ่มเกียรติยศด้วยการสอยโทรฟี่ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา ซึ่ง "หงส์แดง" ได้สะสมความสำเร็จในรายการนี้เป็นสมัยที่ 4 แล้ว

    จะว่าไปแล้ว ลิเวอร์พูล เคยต้องเจ็บช้ำระกำใจในการเล่นรอบชิงชนะเลิศ ในยุคที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน เมื่อพวกเขาต้องแพ้ให้ เซบีย่า ในเกมนัดชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ปี 2016 และพ่ายให้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ในเกมชิงถ้วยใบโตยุโรป ปี 2018 ซึ่งนี่คือบทเรียนสำคัญที่ทำให้พวกเขากลับมาแกร่งขึ้นในปีนี้

"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์ 2

 

"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์

 

    อย่างไรก็ตาม "เดอะ เร้ดส์" พลาดโอกาสคว้าแชมป์แรกในฤดูกาล 2019/20 เมื่อพวกเขาแพ้ให้กับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการดวลจุดโทษ สำหรับแมตช์ชิงโล่การกุศล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ กระนั้น ลิเวอร์พูล ได้แสดงให้เห็นถึงการไม่ยอมแพ้ และพร้อมทั้งมีสปิริตแห่งผู้ชนะ ด้วยการสอยแชมป์ซูเปอร์คัพ มาสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีม

    แน่นอนว่าปีนี้ ลิเวอร์พูล ตั้งเป้าหมายมากยิ่งกว่าเดิม โดยหวังจะประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกของสโมสรให้ได้ และด้วยจิตใจแห่งผู้ชนะที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มันจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ว่าพวกเขาจะแสดงผลงานได้ยอดเยี่ยมแค่ไหนในเกมเยือนเซนต์ แมรี่ส์ วันเสาร์นี้

 

2. จุดผกผันจากอาการเหนื่อยล้า  
    เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เสร็จไม่ยั้งอัดเต็มสูบจนหมดเนื้อหมดตัว เพราะเกมนี้เสมอกัน 1-1 ในช่วงเวลา 90 นาที แถมในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีสกอร์ดันทะลึ่งจบลงที่ 2-2 ทำให้ต้องฎีกาจุดโทษตัดสินหาแชมป์ แม้ "หงส์แดง" จะพกดวงมาด้วยเอาชนะ เชลซี ไปได้ก็ตาม แต่เกมนี้พวกเขาคงหมดพลังไปเป็นกอง

    สำหรับตอนนี้ความสำเร็จที่แสนหอมหวานในเกมซูเปอร์ คัพ ผ่านพ้นไปแล้ว ลูกทีมของกุนซือเลือดด๊อยท์ช จะต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เพราะพวกเขามีคิวเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน โดยที่มีเวลาพักไม่ถึง 3 วัน ที่หนักไปกว่านั้นก็คืออาการเหนื่อยล้า ทั้งจากการเล่นตลอด 120 นาทีผสมกับการนั่งเครื่องบินนานถึง 4 ชั่วโมง ฉะนั้นเกมกับ "นักบุญ" จึงเป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงสำหรับ "เดอะ เร้ดส์"

 

"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์

 

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โฌแอล มาติป, โจ โกเมซ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ทั้งหมดนี้ลงสนามช่วยทีมในเกมล่าสุดจนหยดสุดท้าย ฉะนั้นนี่คือปัญหาใหญ่มากๆ สำหรับ คล็อปป์ ในการต้องรับมือกับการหาวิธีการเตรียมทีมด้วยเวลาที่มีจำกัด พร้อมกับนักเตะที่อาจจะมีอาการอ่อนล้า

    มีความเป็นไปได้ว่าทัพ "นักบุญ" อาจจะฉกฉวยโอกาสจากการที่แข้ง "หงส์แดง" ยังมีสภาพความฟิตไม่เต็มร้อย  ก็อย่างที่ คล็อปป์ พูดเอาไว้ว่าทีมที่น่าจะแฮปปี้กว่า ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ก็คือ เซาธ์แฮมป์ตัน คู่ต่อกรในเกมลีกเพราะทีมดังแดนใต้ได้พักเต็มร้อย ขณะที่พวกเขากรำศึกหนักจนร่างกายกรอบ

 

3. วิกฤตินายทวาร
    ลิเวอร์พูล พบกับช่วงเวลาวิกฤติตั้งแต่เกมกับ นอริช เมื่อ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารทริปเบิ้ลโกลเด้นโกลฟ จำใจต้องออกจากการแข่งขันตั้งแต่ไก่โห่ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่น่อง ส่งผลให้ คล็อปป์ ต้องส่ง อาเดรียน โกลที่ดึงมาเพื่อเป็นยางอะไหล่ แต่กลายเป็นตัวหลักไปโดยปริยาย

 

"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์

 

    ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ ออกมายอมรับว่า อลีสซง หมดสิทธิ์ลงเฝ้าเสาให้กับ แชมป์ถ้วยใบโตยุโรป 6 สมัยอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เรื่องไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ดันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกินกับ "หงส์แดง" เมื่อ  อาเดรียน ฮีโร่ที่นำทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ดันบาดเจ็บข้อเท้า จากการโดนแฟนบอลเข้ามาแสดงความดีใจในสนาม

    สำหรับตอนนี้ คล็อปป์ ยังคงต้องลุ้นว่า นายด่านชาวสแปนิช จะฟิตทันพอเฝ้าเสาให้ต้นสังกัดเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ได้หรือไม่ และถ้านักเตะฟิตไม่ทัน งานนี้ กุนซือหน้าเปื้อนยิ้ม คงต้องจำใจใช้งาน แอนดี้ โลเนอร์แกน ผู้รักษาประตูจอมเก๋า วัย 35 ปี ซึ่งเพิ่งเซ็นสัญญากับทีมสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่วันโดยจะมี เคาอิมฮิน เคลเลเฮอร์ นายทวารวัย 20 ปีซึ่งก็ยังไม่สมบูรณ์จากอาการเจ็บข้อมือ ทำหน้าที่เป็นตัวสำรอง

 

 4. อุ่นเครื่องแย่แต่แจ่มเปิดซีซั่น  
    สาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกใจหายใจคว่ำกับผลงานในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นของ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาชนะ 3 แพ้ 3 และเสมอ 1 ขณะที่ เซาธ์แฮมป์ตัน มีผลงานช่วงออกทัวร์เหนือกว่าเมื่อพวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นด้วยการชนะ 4 และเสมอ 1 แมตช์

    อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดฉากพรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์กลับพลิกผันเมื่อ ลิเวอร์พูล เริ่มต้นด้วยฟอร์มสุดยอดด้วยการปราบ นอริช 4-1 ขณะที่ "นักบุญ" ออกไปโดน เบิร์นลี่ย์ เผาเครื่อง 0-3 ส่งผลให้พวกเขารั้งอยู่ในโซนท้ายตาราง

 

"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์

 

    แน่นอนว่าในเกมวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคมนี้ เซาธ์แฮมป์ต้น ต้องการเรียกความมั่นใจ และสร้างทีมให้กลับมาอยู่ในแนวทางที่ถูกต้องด้วยการเอาชนะหนึ่งในคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดในลีกให้ได้ ขณะที่ "เดอะ เร้ดส์" ต้องการ 3 คะแนนเพื่อรักษาความมั่นใจในการเบียดลุ้นแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 

5. การพบกันก่อนหน้านี้
    ผลงานในการปะทะแข้งกันของ เซาธ์แฮมป์ตัน กับ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่า "นักบุญ" อาจจะเป็นรองเมื่อพวกเขาเอาชนะ "หงส์แดง" ได้ 30 แมตช์ ขณะทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ จัดการดับซ่า "เดอะ เซนต์ส" ได้ถึง 55 เกม โดยทั้งสองทีมแบ่งแต้มกันไป 25 แมตช์

    ครั้งล่าสุดที่ทั้งสองทีมเจอกันย้อนไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดย ลิเวอร์พูล โดนคู่แข่งซัดนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกมจาก เชน ลอง อย่างไรก็ตาม พวกเขาแสดงให้เห็นถึงแคแรกเตอร์ที่ไม่เคยยอมแพ้ด้วยการยิงประตูคืนแบบทบต้นทบดอก 3 ตุงจาก นาบี เกอิต้า ในช่วงกลางครึ่งแรก

 

"นักบุญ" รอสวด - "หงส์" ลุ้นตีปีก : 5 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเกมในเซนต์ แมรี่ส์

 

    ตามด้วยการโชว์ลีลาสวนกลับฉับพลันของ โม ซาลาห์ ที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 ก่อนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมจะตะบันประตูตอกฝาโลกในช่วงท้ายเกม ทำให้พวกเขาสามารถเก็บ 3 คะแนนสำคัญได้อย่างสุดยอดเกินห้ามใจ

    กระนั้นถึง ลิเวอร์พูล จะดูดีมีราคาหากมองจากสถิติในการพบกันเองก็ตาม แต่แน่นอนว่าแมตช์นี้ไม่ง่ายสำหรับ "เดอะ เร้ดส์" และพวกเขาจะต้องเล่นให้คงเส้นคงวา โดยเฉพาะเกมรับ ไม่งั้นคงยากที่จะคว้าชัยชนะออกมาจากสโมสรแดนใต้ได้

 

เล่นสล็อต สร้างรายได้กันเถอะ สมัครรับทุนฟรี คลิกเลย!