สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยกำหนดการแจ้งรายชื่อนักกีฬาฟุตบอล ที่อยู่ในข่ายการพิจารณาถูกเรียกติดทีมชาติ ไปยังสโมสรสมาชิก เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม จี ในเดือน ก.ย.นี้ ขั้นตอนแรก สมาคมจะส่งหนังสือไปยังสโมสร แจ้งให้ทราบว่ามีนักกีฬาในสังกัด ที่อยู่ในข่ายถูกเรียกตัว เพื่อขอความร่วมมือในการเรียกดูเอกสารเบื้องต้น ก่อนจะคัดกรองให้เหลือ 30 คน และทำการประกาศรายชื่อ เพื่อเข้าแคมป์เก็บตัว และคัดเลือกอีกครั้ง ให้เหลือ 23 คนสุดท้าย ที่จะลงแข่งขันในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กับเวียดนาม และอินโดนีเซียต่อไป

    ''บิ๊กโจ'' พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายประสานงานต่างประเทศ เผยว่า ''ทางสมาคมขอแจ้งให้ทางสโมสร และผู้เล่นทราบล่วงหน้า เกี่ยวกับนโยบายการเรียกนักกีฬาของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โดยทางหัวหน้าผู้ฝึกสอน อากิระ นิชิโนะ ต้องการชี้แจง เพื่อป้องกันความสับสน และเข้าใจแผนงานมากขึ้น''

    ''ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ สมาคมจะส่งหนังสือไปยังสโมสรสมาชิก ว่ามีนักกีฬาในสังกัดของท่านอยู่ในข่ายการพิจารณา เพื่อเข้ามาร่วมแคมป์ทีมชาติ ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบของฟีฟ่า ในการที่ต้องแจ้งให้สโมสร และนักกีฬาทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนฟีฟ่าเดย์วันแรก 15 วัน ซึ่งจำนวนรายชื่อที่ส่งไป จะมากกว่าจำนวนที่จะใช้ยืนยันเรียกตัวเข้าสู่แคมป์จริง''

    ''นิชิโนะต้องการเวลาในช่วงวันที่ 19 ส.ค. ปรึกษากับทีมงาน ที่แยกตัวกันไปดูแมตช์การแข่งขันไทยลีกในช่วงที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 17-18 ส.ค. เพื่อประมวลข้อมูลต่างๆ ก่อนตัดสินใจเรียกผู้เล่นจำนวน 30 คน เข้าสู่แคมป์เก็บตัว''

    ''และในวันที่ 20 ส.ค. ทางสมาคมจะส่งหนังสือยืนยันเรียกตัวนักกีฬาที่จะเข้าแคมป์ ไปยังสโมสร ตรงกับช่วงเวลา 7 วันก่อนวันเริ่มแคมป์ เพื่อให้สโมสร และตัวนักกีฬาได้ทราบ เพื่อจะได้บริหารและวางแผนตารางเวลาล่วงหน้า หลังจากเริ่มเก็บตัวในวันที่ 27 สิงหาคมแล้ว จะมีการอุ่นเครื่องแบบปิด 1 นัด ก่อนจะคัดเลือกให้เหลือ 23 คนสุดท้าย เพื่อเตรียมเข้าแข่งขันต่อไป''

    พร้อมกันนี้ ''บิ๊กโจ'' ได้เผยถึงเรื่องฝ่ายจัดการแข่งขันของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย แจ้งกับทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถึงนโยบาย ที่จะยังไม่มีการใช้ VAR ช่วยในการตัดสิน ในเกมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง 

    ''ในตอนแรกทางสมาคมได้ติดต่อไปยังเอเอฟซี เพื่อขอใช้เทคโนโลยี VAR กับฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เนื่องจากเทคโนโลยีของเรามีความพร้อมทางด้านนี้อยู่แล้ว''

    ''อย่างไรก็ตาม ทางเอเอฟซีได้ให้เหตุผลว่า จากการที่มีเกมการแข่งขัน ในเวลาที่ไล่เลี่ยกันมากกว่า 10 สนาม นั่นหมายความว่า จะต้องใช้ผู้ตัดสินเพิ่มอีก 3-4 คน ต่อคู่ เพื่อประจำในห้องปฏิบัติการ VAR ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการเพิ่มผู้ตัดสิน ที่จะรองรับ VAR อีกจำนวนมาก'' 

    ''นอกจากนี้ เทคโนโลยี VAR ที่ใช้ในแต่ละประเทศ อาจจะแตกต่างกัน ต้องมีการตรวจสอบจุดตั้งกล้อง และทางด้านเทคนิคอีกมาก จึงยังไม่เหมาะที่จะใช้ ในการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน ที่มีแมตช์แข่งขันในหลากหลายประเทศตอนนี้''

    ''อย่างไรก็ดี ในรายการแข่งขัน ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย มีแนวโน้มที่จะมีการใช้ VAR เนื่องจาก ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเดี่ยว ดังนั้นเทคโนโลยี VAR ที่ใช้ จะเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ รวมถึงมีการเชื่อมโยงเครือข่ายไว้ตามสนามที่ใช้ในการแข่งขันไทยลีก 1 ไว้แล้ว''

    สำหรับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง นัดแรกของกลุ่ม จี พบกับ เวียดนาม ในวันที่ 5 ก.ย.62 เวลา 19.00 น. ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ก่อนจะบุกไปเยือน อินโดนีเซีย ในวันที่ 10 ก.ย.62 เวลา 19.30 น. ณ สนามเกโลรา บุง การ์โน (เสนายันเดิม) โดยทุกคู่ ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32

    ขณะที่ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบสุดท้าย ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ในเดือนม.ค.63 มี 4 สนามที่จะใช้คือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน, สนามสมโภช 700 ปี จ.เชียงใหม่, สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา และสนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต