แกรี่ เนวิลล์ มั่นใจ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ดาวเตะ ลิเวอร์พูล ได้ พร้อมบอกว่า แม็กไกวร์ มีอิทธิพลด้านดีต่อนักเตะคนอื่นๆ ของ “ปีศาจแดง” ด้วย

    แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเชื่อว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังคนใหม่ของ "ปีศาจแดง" สามารถขึ้นไปทาบชั้นกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ได้

    ฟาน ไดค์ เคยเป็นเจ้าของสถิติกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก ในตอนที่ ลิเวอร์พูล ซื้อเขาด้วยราคา 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,075 ล้านบาท) เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2018 ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนได้รับคำชมว่าปเนหนึ่งในเซนเตอร์แบ็กที่เก่งที่สุดของโลกไปแล้ว

    ทั้งนี้ สถิติของ ฟาน ไดค์ อยู่มาได้ราว 1 ปีครึ่ง หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เทเงินสูงถึง 80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,280 ล้านบาท) เพื่อดึงเขามาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงไม่กี่วันก่อนเปิดฤดูกาล 2019-20 ซึ่งแข้งวัย 26 ปีก็เพิ่งได้เป็นตัวจริงในเกมลีกนัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ เชลซี 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา และในเกมนั้นเขาก็เล่นได้ดีสุดๆ ด้วย

    เนวิลล์ คนพี่ เผยว่า "แม็กไกวร์ ดูมีความมั่นคงและแข็งแกร่ง ทุกครั้งที่บอลลอบมาอยู่ใกล้เขา เขาก็จะชนะตอนดวลกลางอากาศอยู่เสมอ และดูไม่ต่างจากตอนที่เล่นให้ทีมชาติอังกฤษหรือ เลสเตอร์ เลย ผมคิดว่านั่นเป็นจุดเด่นหลักๆ ของเขา เขาเข้ามาอยู่กับทีมด้วยค่าตัวมหาศาล, ลงเล่นเกมใหญ่ในฐานะนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก แต่กลับดูไม่ต่างจากสมัยก่อนเลย"

    "เขาคุมอารมณ์ได้ดีมากๆ สิ่งที่ทีมหวังเอาไว้ก็คือการที่เขาไม่ได้ทำเฉพาะงานของตัวเองเท่านั้น แต่ต้องเป็นคนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับโดยรอบเพื่อทำให้ทั้งทีมแข็งแกร่งขึ้นด้วย บรรดายอดเซนเตอร์แบ็กที่ผมเคยเล่นด้วยน่ะไม่ได้ช่วยเฉพาะตัวของพวกเขาเองในระหว่างการแข่งขันเท่านั้น แต่พวกเขายังมีผลกระทบกับคนอื่นๆ อย่างมากเช่นกัน"

    "เราเคยพูดกันแล้วว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ทำอย่างนั้นได้กับการเล่นให้ ลิเวอร์พูล จริงอยู่ว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่า แม็กไกวร์ จะสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างดีเหมือนที่ ฟาน ไดค์ ทำได้ แต่มันก็มีโอกาสที่เขาจะทำอย่างนั้นได้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยต้องการ แม็กไกวร์ อย่างมาก และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นฝ่ายได้เขาไปครอง มันหมายความว่าพวกเขา (แมนฯ ซิตี้) ก็ต้องการนักเตะระดับเขาเหมือนกัน เขามีบุคลิกที่ยอดเยี่ยม, มีนิสัยที่ดี, เป็นผู้นำ, มีอิทธิพลอย่างมาก เขาจะทำให้สโมสรมีความมั่นคงในอีก 5 หรือ 6 ปีหลังจากนี้เลยล่ะ"