แน่นอนว่า ไฮไลท์สำคัญของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์แรกของฤดูกาล 2019/20 หนีไม่พ้นเกมบิ๊กแมตช์ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดวลกับ เชลซี วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นเกมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเชื่อเหลือเกินว่า เหล่าสาวก “เร้ด อาร์มี่” คงตั้งตารอที่จะได้เห็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังคนใหม่ในยูนิฟอร์ม “ปีศาจแดง” ขณะที่แฟนๆ “สิงห์บลูส์” ก็คงอยากจะเป็นทีมยุคใหม่ภายใต้การนำทัพของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้เป็นตำนานของสโมสร และนี่คือเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจสำหรับเกมนี้
– นี่คือครั้งแรกที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจอกับ เชลซี ในศึก พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาลนับตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งตอนนั้น "สิงห์บลูส์" ภายใต้การนำทัพของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชือด "ปีศาจแดง" ด้วยสกอร์ 1-0
– นี่คือครั้งแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดฉากนัดแรกของฤดูกาล ด้วยการเปิดบ้านรับมือ เชลซี นับตั้งแต่ปี 1958 ซึ่งตอนนั้น "ปีศาจแดง" เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถล่ม "สิงห์บลูส์" 5-2 โดยที่ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ทำแฮตทริกได้
– แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น จากเกม พรีเมียร์ลีก 13 นัดหลังสุดที่เจอกับ เชลซี (เสมอ 6 แพ้ 5) อย่างไรก็ตาม 6 เกมหลังสุดที่เจอกันใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้น "ปีศาจแดง" แพ้ไม่เป็น
– เชลซี เป็นเพียงทีมเดียวที่มีสถิติชนะมากกว่าแพ้ในการเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในศึก พรีเมียร์ลีก โดย "สิงห์บลูส์" มีสถิติชนะ 18 แพ้ 15 ยามฟาดแข้งกับ "ปีศาจแดง" นับตั้งแต่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชั่น 1 เป็น พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 1992/93
– ถ้าหาก แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะในเกมวันอาทิตย์นี้ไม่ได้ พวกเขาก็จะทำสถิติคว้าชัยเกม พรีเมียร์ลีก ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ได้ 4 นัดติด ซึ่งจะเทียบเท่ากับสถิติสูงสุดของสโมสรที่เคยทำไว้
– อย่างไรก็ตาม "ปีศาจแดง" แพ้แค่หนเดียวเท่านั้น จาก 26 เกมหลังสุด (ชนะ 19 เสมอ 6) ที่ได้เปิดฉากเตะเกมแรกของฤดูกาลที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
– ผู้จัดการทีม เชลซี คนล่าสุดที่แพ้ตั้งแต่การลงคุมทีมนัดแรกคือ อัฟราม แกรนท์ และเกมๆ นั้นคือเกมที่ "สิงห์บลูส์" บุกไปแพ้ "ปีศาจแดง" 0-2 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
– แฟร้งค์ แลมพาร์ด เก็บชัยชนะได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จาก 9 เกม พรีเมียร์ลีก ที่เผชิญหน้ากับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นนักเตะ (เสมอ 3 แพ้ 5) โดยที่ โซลชา ทำได้ถึง 4 ประตู ส่วน แลมพาร์ด ยิงได้แค่ลูกเดียว
– Subinho –