นี่คือสัญญาณว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเริ่มขึ้นแล้ว…”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตะบันชัย เกมฟัดเดือด “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะใช้ ลีรอย ซาเน่ บวกประตู ในศึกฟุตบอล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2019 ช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : beIN Sports 2, เวลา : 21.00 น.

ปรีวิวฟุตบอล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2019
วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2562
ลิเวอร์พูล   –    แมนฯ ซิตี้
ถ่ายทอดสด : beIN Sports 2, เวลา : 21.00 น.

สนาม : เวมบลีย์ (สนามกลาง)
    เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล พาทีมชนะโอลิมปิก ลียง 3-1 ในเกมอุ่นเครื่องล่าสุด เป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 5 เกม

    ความพร้อมเกมนี้ ที่แน่ๆคล็อปป์จะไม่มีนาธาเนียล ไคลน์ ที่เข่าพังต้องพักยาว รวมไปถึงซาดิโอ มาเน่ ที่ยังไม่ฟิตเต็มที่ หลังเพิ่งกลับมาจากฮอลิเดย์

    ส่วนพวกตัวหลักที่ลงเคาะสนิมในเกมล่าสุดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอลิสซอน เบ็คเกอร์, นาบี เกอิต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็น่าจะได้ออกสตาร์ทตามปกติ

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ ทริปเปิ้ลแชมป์ซีซั่นก่อน พาทีมชนะโยโกฮาม่า มารินอส 3-1 ในเกมอุ่นเครื่องล่าสุด เป็นชัยชนะ 2 นัดติด

    ความพร้อมเกมนี้ ทีมของเป๊ปมีปัญหาใหญ่แนวรับหลายรายไม่ได้เดินทางไปกับทีมทั้ง แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ตลอดจน แฟร์นันดินโญ่ และ เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ที่บาดเจ็บ รวมถึง ดานิโล่ ที่ตกเป็นข่าวจ่อย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส

    นอกจากนี้ก็แย้มๆว่าพวกแช้งละติน และ แอฟริกัน ที่ผ่านภารกิจทีมชาติกันมา จะเริ่มต้นบนม้านั่งสำรองก่อน ทำให้เกมรุกอาจมาในรูปแบบ "ฟอลส์ นายน์" เป็นราฮีม สเตอร์ลิง ที่รับบทหน้าเป้าเหมือนเกมอุ่นเครื่องล่าสุด ขณะที่แข้งใหม่อย่างโรดรี ก็จะได้ประเดิมเกมอย่างเป็นทางการ
    
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนามตัวจริง    
    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, เซอร์ดาน ชาคิรี่
    ผู้จัดการทีม : เยอร์เก้น คล็อปป์

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เคลาดิโอ บราโว – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นิโกลัส โอตาเมนดี้ , โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี เอร์นานเดซ, ดาบิด ซิลบา – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง, ลีรอย ซาเน่
    ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า     
 
    ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
– นี่คือการเจอกันครั้งแรกระหว่างทั้งสองทีมในศึกเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์
– ทั้งสองทีมเคยเจอกันที่เวมบลีย์แค่หนเดียว แมนฯ ซิตี้ดวลเป้าชนะ 3-1 เสมอเวลา 1-1 ในเวลา 120 นาที คว้าแชมป์ลีก คัพ ปี 2016
– แมนฯ ซิตี้ชนะแค่ 2 จาก 12 เกมหลังสุดที่พบลิเวอร์พูล (เสมอ 3 แพ้ 7)
– ในยุคพรีเมียร์ลีก นี่คือหนที่ 7 ที่แชมป์พรีเมียร์ลีกโคจรพบรองแชมป์พรีเมียร์ลีก โดย 2 จาก 3 หนล่าสุดผู้ชนะคือรองแชมป์พรีเมียร์ลีก (อาร์เซน่อล – แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 1999, แมนฯ ยูไนเต็ด – เชลซี ปี 2010)
– ลิเวอร์พูลลงเล่นคอมมิวนิตี้ ชิลด์เป็นครั้งที่ 22 มีเพียงแมนฯ ยูไนเต็ดที่ลงเล่นมากกว่า (31)
– ลิเวอร์พูลลงเล่นคอมมิวนิตี้ ชิลด์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งเฉือนเชลซี 2-1 ที่คาร์ดิฟฟ์ ทว่าเป็นครั้งแรกในเวมบลีย์ ตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งหนนั้นแพ้ลีดส์ 3-4
– ลิเวอร์พูลชนะแค่ 1 จาก 5 เกมหลังสุดที่เวมบลีย์ (เสมอ 1 แพ้ 3) คือเกมบุกเฉือนสเปอร์สในพรีเมียร์ลีก
– แมนฯ ซิตี้ลงเล่นคอมมิวนิตี้ ชิลด์เป็นครั้งที่ 12 โดยก่อนหน้านี้ชนะ 5 รวมถึงที่พบเชลซีเมื่อปีที่แล้ว
– แมนฯ ซิตี้ไร้พ่ายที่เวมบลีย์ตลอด 7 เกมหลังรวมทุกรายการ (ชนะ 6 เสมอ 1) ยิงได้ 16 เสียเพียงประตูเดียว ตั้งแต่แพ้อาร์เซน่อลในรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ ปี 2017
– เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นำทีมแพ้ลิเวอร์พูล 4 จากการเจอกันทั้งหมด 8 นัดรวมทุกรายการ (ชนะ 2 เสมอ 2) เป็นสถิติส่วนตัวแย่สุดเท่าเชลซี และเรอัล มาดริด
– เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' เหมาคนเดียว 2 ประตูเกมชิงโล่การกุศลชนะเชลซี 2-0 ปีที่แล้ว และมีลุ้นยิงประตูในคอมมิวนิตี้ ชิลด์สองปีติดต่อกันครั้งแรกนับจาก เอเดรียน ฮีธ เคยยิงให้เอฟเวอร์ตัน ปี 1985 และ 1986