ปาทริซ เอวร่า ออกโรงเฉ่ง เอ็ด วู้ดเวิร์ด ผู้บริหารระดับสูงของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ผิดสัญญาด้วยการใช้อ็อปชั่นต่อสัญญาโดยที่ไม่ถามตนก่อน โดยระบุ เรื่องนั้นเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาตัดสินใจขั้นเด็ดขาดว่าจะไม่อยู่กับ “ปีศาจแดง” อีกต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังมีความคิดว่าอาจจะเปลี่ยนใจอยู่บ้าง

    ปาทริซ เอวร่า อดีตยอดแบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหารของ "ปีศาจแดง" ผิดสัญญากับตนเมื่อปี 2014 จนทำให้ตนตัดสินใจขั้นเด็ดขาดว่าต้องบอกลาทีม

    หลังจากอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ปี 2006 เอวร่า ก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2014 ซึ่งมันทำให้หลายคนแปลกใจพอตัว เพราะที่จริงไม่ถึง 2 เดือนก่อนหน้านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งใช้อ็อปชั่นต่อสัญญากับเขา 1 ปีไปหมาดๆ

    กระทั่งล่าสุด เอวร่า ก็ออกมาเฉลยว่าที่จริงแล้วตอนนั้น วู้ดเวิร์ด ใช้อ็อปชั่นต่อสัญญาโดยที่ไม่ได้ติดต่อมาสอบถามตนก่อนเลย และมันก็ทำให้เขาโมโหมากๆ จนเลือกที่จะบอกลา แมนฯ ยูไนเต็ด ในที่สุด เพราะถึงแม้ก่อนหน้านั้นเขาจะเคยบอกกับ วู้ดเวิร์ด ว่าจำเป็นต้องย้ายทีมด้วยเหตุผลด้านครอบครัว แต่ลึกๆ แล้วก็ยังรักยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อยู่ จนถึงขนาดมีความคิดว่าอาจจะเปลี่ยนใจเช่นกัน

    เอวร่า ที่เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ด ให้สัมภาษณ์กับ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดีว่า "ก่อนที่ฤดูกาลนั้น (2013-14) จะจบลงน่ะ เอ็ด บอกกับผมเองว่า -ปาทริซ นายจะได้อยู่กับเราต่ออีก 1 ปีนะ เพราะเรามีอ็อปชั่นนั้นอยู่ในสัญญาของนาย- แต่ผมบอกเขาไปว่าผมจำเป็นต้องย้ายทีมด้วยเหตุผลที่เกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งเขาก็จับมือกับผม และบอกว่าเขาเข้าใจถึงการตัดสินใจของผมเป็นอย่างดี"

    "พอถึงช่วงเดือนพฤษภาคม ผมกำลังกินข้าวเย็นที่ดูไบเพื่อฉลองวันเกิดของตัวเองอยู่ แล้วจากนั้นเอเยนต์ก็ส่งข้อความมาหาผม เขาบอกให้ผมไปหาที่เงียบๆ ก่อน จากนั้นเขาก็ส่งข้อความมาอีกอันที่เป็นแถลงการณ์จาก ยูไนเต็ด ที่บอกว่าพวกเขาดีใจที่ได้ต่อสัญญากับผมอีก 1 ปี"

    "มันทำให้ผมโมโหมากๆ ผมผิดหวังสุดๆ ผมโทรศัพท์หา เอ็ด และด่าเขาแบบหยาบคายผ่านทางโทรศัพท์ ผมถึงขั้นขู่เล่นงานเขาด้วยซ้ำ ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่าผมไม่ควรพูดกับผู้บริหารของทีมฟุตบอลแบบนั้น และบอกว่าเขาจะปรับเงินผมเพื่อเป็นการลงโทษ"

    "หลังจากนั้น ไรอัน กิ๊กส์ ก็โทรศัพท์มาหาผม และบอกว่าผมยังไม่สามารถย้ายทีมได้เพราะการกระทำของชายคนหนึ่ง (หมายถึง วู้ดเวิร์ด) แต่มันกลับทำให้ผมมีข้ออ้างที่จะย้ายทีมได้ในท้ายที่สุด เพราะถึงแม้ตอนแรกผมจะบอกกับภรรยาไปตั้งนานแล้วว่าเรากำลังจะย้ายทีม แต่ลึกๆ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอยากบอกลาทีมจริงๆ รึเปล่า อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้น (การที่ วู้ดเวิร์ด ผิดสัญญาด้วยการใช้อ็อปชั่นต่อสัญญากับเขา) ช่วยทำให้ผมตัดสินใจย้ายทีมได้ง่ายขึ้นนิดหน่อย"

    "บางคนคงไม่เข้าใจว่าทำไม เอ็ด ถึงทำอย่างนั้น แต่พูดกันตามตรงนะ ผมพอจะเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น เพราะในกลุ่มนักเตะรุ่นอาวุโสของทีมในตอนนั้นเนี่ย ผมคือคนเดียวที่เขาอยากเก็บให้อยู่กับทีมต่อไป แม้แต่ เดวิด มอยส์ ก็ยังพูดแบบนั้นในตอนที่เขาโดนปลดออกจากตำแหน่งเลย พวกเขาบอกกับ (ริโอ) เฟอร์ดินานด์ และ (เนมานย่า) วิดิช ว่าทีมไม่ต้องการพวกเขาอีกแล้ว แต่ในห้องแต่งตัวน่ะ คุณต้องการคนที่มีบุคลิกที่ดีที่จะช่วยทีมได้ ผมเข้าใจถึงสาเหตุที่ เอ็ด ทำแบบนั้น แต่ผมก็แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องหักหลังผมด้วย เขาควรจะติดต่อมาหาผมเพื่ออธิบายกับผมก่อนสิ (หมายถึง วู้ดเวิร์ด ควรจะคุยกับ เอวร่า เป็นอันดับแรก ก่อนที่จะใช้อ็อปชั่นต่อสัญญา)"

    "ถ้าเขาไม่หักหลังผมแบบนั้นน่ะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะเป็นยังไง ผมอาจจะต้องรับมือกับภรรยาก็ได้ (หมายถึงอาจจะเปลี่ยนใจเป็นอยู่กับทีมต่อ แล้วต้องไปพูดแก้ตัวกับภรรยาทั้งที่เคยบอกแล้วว่าจะย้ายทีม) และผมต้องบอกเลยว่าเวลาเธอโกรธนี่เธอน่ากลัวมากๆ เวลาที่เธอโมโหนี่ผมถึงขั้นเรียกเธอว่าเป็น รอย คีน ด้วยซ้ำ ไม่รู้สินะ ตอนที่ผมไปถึงนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูเวนตุส ได้น่ะ เธอบอกกับผมว่า -ฉันบอกแล้วว่าการย้ายทีมน่ะเป็นการเลือกที่ถูกต้อง- แต่สำหรับผมแล้วต่อให้ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูเว่ ถึง 3 สมัย มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกพึงพอใจมากเท่ากับการได้เล่นให้ ยูไนเต็ด หรอก"

    ทั้งนี้ วู้ดเวิร์ด มักจะโดนวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่าบริหารด้านฟุตบอลได้ย่ำแย่ และปฏิบัติกับคนในทีมได้ไม่ดีจนทำให้หลายคนเกลียดเขา อย่างเช่น หลุยส์ ฟาน กัล อดีตผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มักจะออกมาด่า วู้ดเวิร์ด อยู่บ่อยๆ เป็นต้น