“ราชันชุดชาว” เรอัล มาดริด ฟอร์มอุ่นเครื่องยังแย่ติดต่อกัน หลังล่าสุดโดน สเปอร์ส เฉือนเอาชนะไปแบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ แฮร์รี่ เคน ส่งผลให้ “ไก่เดือยทอง” เข้าไปชิงถ้วย เอาดี้ คัพ ในวันพรุ่งนี้เป็นทีมแรก โดยรอพบผู้ชนะระหว่างเจ้าภาพ บาเยิร์น มิวนิค หรือเฟเนร์บาห์เช่

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า, มิวนิค (สนามกลาง)

    ศึก เอาดี้ คัพ 2019 เมื่อคืนวันอังคารที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยคู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด ที่เกมล่าสุดพ่ายคู่ปรับร่วมเมือง แอต.มาดริด มาเละเทะ 3-7 พบกับ สเปอร์ส ซึ่งลงเล่นในไอซีซี คัพ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาหวุดหวิด 1-2

    เกมนี้ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์จัดชุดที่ดีที่สุดลงสนาม แนวรุกใช้ทั้ง คาริม เบนเซม่า, เอแด็น อาซาร์ และโรดริโก้ ขณะที่ สเปอร์ส ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ วาง แฮร์รี่ เคน หน้าเป้า โดยมี ซน ฮึง มิน, คริสเตียน อีริคเซ่น และเอริค ลาเมล่า

    ครึ่งแรก นาที 18 "ไก่เดือยทอง" เกือบได้ลุ้นนำก่อนเลย เมื่อ แดนนี่ โรส ปาดบอลมาเสาแรกให้ ซน ฮึง มิน วิ่งมายิงด้วยซ้ายแต่ยังไปติดปลายมือ นาบาส ปัดออกหลังไป

    ถัดมาอีกสองนาที เอ็นดอมเบเล่ กดด้วยขวานอกกรอบเต็มข้อ บอลพุ่งแรงตรงตัว นาบาส จนต้องปัดออกหลังไปอีก

    กระนั้น นาที 22 สเปอร์ส มาขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากความผิดพลาดของ มาร์เชโล่ ที่เสียดายบอลพยายามส่งบอลคืนหลัง แต่น้ำหนักบอลเบาไปกลายเป็นส่งให้ แฮร์รี่ เคน ที่วิ่งไปดักทางบอลก่อนซัดเสาแรกผ่านมือ นาบาส เข้าประตูไปอย่างใจเย็น

    ผ่านไปครึ่งชั่วโมง แฮร์รี่ เคน เกือบส่งบอลซุกตาข่ายอีกรอบ หลังรับบอลจากเอริค ลาเมล่า แล้วกดด้วยขวาไปเสาสองแต่ดีที่ เกย์ลอร์ นาบาส ยังไวปัดบอลเซฟช่วยทีมได้หวุดหวิด

    นาที 40 อาซาร์ ไหลบอลออกขวาให้ เบนเซม่า ตัดเข้าเท้าซ้ายซัดบนเส้น 18 หลาแต่บอลหลุดกรอบเหินคานออกไปแบบได้ลุ้น

    จบครึ่งแรก สเปอร์ส ขึ้นนำ เรอัล มาดริด ไปก่อน 1-0

    ครึ่งหลัง สเปอร์ส เปลี่ยนผู้เล่นถึง 9 คน โดยเหลือแค่ แฮร์รี่ เคน และซน ฮึง มิน เท่านั้น โดยส่ง อูโก้ โยริส ลงเฝ้าเสารวมทั้ง มุสซ่า ซิสโซโก้ ,เดเล่ อัลลี่ และลูกัส มูร่า 

    นาที 59 เดเล่ อัลลี่ โขกชงต่อให้ ซน ฮึง มิน อัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไปติดเซฟของ นาบาส ออกไป อีกสองนาทีต่อมา แฮร์รี่ เคน กดด้วยขวาในกรอบแต่บอลยังไปตรงตัวนาบาสอีก

    นายด่านชาวคอสตา ริกาอีก งานเข้าเรื่อยๆ นาที 62 ลูกัส มูร่า ไหลต่อให้ เดเล่ อัลลี่ ซัดด้วยขวาเต็มแรงแต่ดีบอลยังพุ่งไปตรงตัว นาบาส ที่ทุบบอลออกไป

    ชุดขาวทยอยเปลี่ยนตัวสำรองลงมาบ้างทั้ง จูเนียร์ วินิซิอุส, นาโช่ แฟร์นานเดซ และเฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ขณะที่ทัพไก่ถอดเอา เคน และซน ฮึง มิน ออกมาพัก 

    นาที 74 ลูกทีมของ ซีดาน พลาดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย หลัง โรดริโก้ ซัดบอลเข้าประตูไป แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

    นาที 80 "ชุดขาว" เปลี่ยนตัวชุดใหญ่เอาตัวหลักอย่าง อาซาร์, โมดริด, มาร์เชโล่, เบนเซม่า ออกแล้วส่ง คูโบะ, มาเรียโน่, อีสโก้ ลงเล่นแทน

    นาที 84 ทาเกฟูสะ คุโบะ เกือบพาชุดขาวไล่ตีเสมอได้สำเร็จ หลังอัดนอกกรอบ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ โยริส ที่ปัดบอลออกไป และอีกสองนาทีต่อมา สเปอร์ส เกือบบวกเพิ่มอีกลูกหลัง ทรอย แพร์ร็อตต์ หอกดาวโรจน์ที่ลงมาสำรองซัดบอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย 

     ช่วงเวลาที่เหลือทัพของ ซีดาน ไม่สามารถเจาะแนวรับของไก่เดือยทองได้ จบเกม สเปอร์ส เฉือนเอาชนะ เรอัล มาดริด 1-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ เอาดี้ คัพ โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค หรือเฟเนร์บาห์เช่ ในวันพรุ่งนี้ ส่วน ชุดขาว ไปชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกันแทน

    รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่ลงสนาม    

        เรอัล มาดริด (4-4-2) : เกย์ลอร์ นาบาส – ดานี่ การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ – ลูกัส บาซเกซ, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, เอแด็น อาซาร์  – โรดริโก้, คาริม เบนเซม่า

        เทรนเนอร์ : ซีเนดีน ซีดาน 

        สเปอร์ส (4-2-3-1) : เปาโล กาซซานิก้า – ฮวน ฟอยธ์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น, แดนนี่ โรส – แฮร์รี่ วิงค์ส, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ – ซน ฮึง มิน, คริสเตียน อีริคเซ่น, เอริค ลาเมล่า – แฮร์รี่ เคน

        เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่