เดวิด มอยส์ ออกโรงเฉ่งนโยบายการเสริมทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงหลายซีซั่นที่ผ่านมา ชี้ “ปีศาจแดง” ไม่ยอมยึดติดกับแนวทางดั้งเดิมของสโมสร และเอาแต่ใช้เงินแบบสุรุ่ยสุร่าย

    เดวิด มอยส์ กุนซือว่างงานชาวสกอตต์ ตำหนิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่ามีนโยบายการเสริมทัพที่แย่มากๆ ในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะไม่ยอมยึดติดกับแนวทางดั้งเดิมของทีม และเอาแต่ทุ่มเงินซื้อแข้งดัง

    นับตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้ายที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังเป็นผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่นั้น "ปีศาจแดง" ก็ใช้งบเสริมทัพไปเยอะมาก อย่างเช่นถ้านับเฉพาะยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล กับ โชเซ่ มูรินโญ่ รวมกัน มันก็หมายความว่ายอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ใช้เงินถึงราว 620 ล้านปอนด์ (ประมาณ 25,420 ล้านบาท) ไปกับการเสริมทัพ

    อย่างไรก็ตาม ทั้งที่ใช้เงินไปมากถึงขนาดนั้น แต่พวกเขากลับไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์ลีกอีกเลยตั้งแต่ที่ เฟอร์กูสัน บอกลาทีมไป นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังติด 4 อันดับแรกของตารางคะแนนเพียงแค่ 2 หนเท่านั้น ประกอบด้วยซีซั่น 2014-15 ที่เป็นอันดับ 4 และฤดูกาล 2017-18 ที่ได้อันดับ 2

    มอยส์ ให้สัมภาษณ์กับ เดอะ มิร์เรอร์ สื่อชื่อดังของอังกฤษว่า "มันเป็นเรื่องยากมากกว่าที่จะรู้ว่า ยูไนเต็ด เดินไปในทิศทางไหน อย่างเรื่องที่ว่าพวกเขาเซ็นสัญญากับนักเตะเพื่อเรื่องการตลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาทำได้ดีมากๆ หรือว่าพวกเขาเซ็นสัญญากับนักเตะเพื่อที่จะให้ทำผลงานได้ดีในสนาม ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน"

    "สิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีก็คือคุณค่าและความมีระดับอันยอดเยี่ยม คุณค่าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้อยู่ที่การซื้อนักเตะที่แพงที่สุดเสมอไป แต่เป็นการทำตามประเพณีของสโมสร นั่นก็คือการดันเด็กๆ ขึ้นมาจากอะคาเดมี่ และเลือกนักเตะดาวรุ่งที่เก่งที่สุด (ให้อยู่ในทีมชุดใหญ่) แล้วจากนั้นก็จะมีแข้งเก่งๆ ไม่กี่คนที่พวกเขาซื้อเข้ามาที่ช่วยสร้างความแตกต่างได้ อย่างเช่น เอริก คันโตน่า กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่"

    "ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะเป็นทีมที่คิดถึงแต่เรื่องทุ่มเงินซื้อนักเตะอย่างเดียว เพียงแต่ถ้าพวกเขาจำเป็นต้องซื้อ พวกเขาก็อาจจะต้องซื้อบ้างก็เท่านั้น"