อเดบาโย่ กุนซือสุพรรณบุรี เอฟซี ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมที่นำลูกทีมเปิดบ้านเสมอกับ”ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี 1-1ในเกมไทยลีก 1 เมื่อวันอาทิตย์ที่14 ก.ค.ผ่านมา ซึ่งทีมน่าจะได้จุดโทษท้ายเกมแต่กลับไม่ได้จนทำให้มีเหตุการณ์แฟนบอลสุพรรณบุรี เอฟซี มาดักรอผู้ตัดสินที่บริเวณทางออกจากสนามว่า
“เกมนี้ผมพอใจกับเด็กแล้ว ก็ต้องกลับไปว่าพอใจกับกรรมการมั้ย ? ความรู้สึกของผมก็คือไม่เป็นไรเราสู้ได้กับทุกทีม เราพร้อมเล่นกับทีม 13 คนด้วยซ้ำหากมีคนที่อยากทำร้าย เราขอฝากไปถึงฝ่ายบริหารซึ่งมีหน้าที่ควบคุมจัดผู้ตัดสินด้วย เพราะพวกเขาวิเคราะห์กันทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว มันเป็นหน้าที่เของพวกเขา ซึ่งก็ต้องถามว่า คุณรู้สึกเช่นไรบ้างที่เป็นแบบนี้ แฟนบอลสุพรรณบุรีต้องเสียตังค์ เสียใจกับการกระทำแบบนี้มันถูกต้องหรือ“
“เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ผมอยู่ประเทศไทยมากว่า 20 ปีตั้งแต่เป็นนักเตะไม่เคยมีปัญหากับผู้ตัดสินเลย แต่วันนี้มันเป็นวันแรกที่ผมต้องคุยกับผุ้ตัดสิน เพราะมันทนไม่ได้มันเยอะเกินไป ผมไม่เข้าใจมันน่าจะมีวีเออาร์ หรือมีคนที่สามารถทักท้วงได้ ไม่น่าเชื่อว่าจังหวะที่เขาให้จุดโทษฝั่งตรงข้าม เขาให้ได้ซึ่งมันน่าเกียจมาก ผู้ตัดสินที่ 4 บอกว่ามันฟาวล์ แต่พอจังหวะของเรามันชัดเจนมากกลับไม่ยอมให้ ผู้ตัดสินไม่ยอมพูดอะไรเลย ถ้าคุณเป็นหัวหน้าทีมทำงานหนักมาตลอดอาทิตย์ เพื่อหวังสามแต้ม เพราะมันสำคัญกับเรามาก แต่กลับไม่ได้ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดข้นแบบนี้คุณจะรู้สึกเช่นไร แต่ก็ไม่เป็นไร ทีมเราสู้กับผู้เล่น14 คนได้ “
ทั้งนี้สำหรับคณะผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวประกอบด้วยผู้ตัดสิน พิชิต ณ สุวรรณ ,ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 ราเชนทร์ ศรีชัย ,ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 ณัฐพล มาลา ,ผู้ตัดสินที่ 4 วิวรรธน์ จำปาอ่อน ,ผู้ประเมินผู้ตัดสิน ณัฎฐ ศรีเสาวลักษณ์ , ผู้ควบคุมการแข่งขัน ชัชชัย ธนากรพิพัฒนกุล
โดยก่อนเริ่มการแข่งขันดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ตัดสิน จากเดินชื่อ วิวรรธน์ จำปาอ่อน เป็นคนเป่าแต่เปลี่ยนเป็น พิชิต ณ สุวรรณ ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินที่ 4 มาเป่าแทนในเกมดังกล่าวมาเป่า โดยให้ วิวรรธน์ ไปนั่งเป็นผู้ตัดสินที่ 4 แทน ทั้งนี้จากการสอบถามทาง ชัชชัย ธนากรพิพัฒนกุล ผู้ควบคุมการแข่งขันได้ให้เหตุผลว่า เนื่องจากทาง วิวรรธน์ จำปาอ่อน เพิ่งเป่าเกมของสุพรรณบุรี ที่ออกไปเสมอบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-0 ในเกมลีกล่าสุดมา เพื่อความโปรงใส่และยุติธรรมเลย ให้มีการสลับหน้าที่กัน