ช่วงเวลาแห่งการรอคอยจบสิ้นซะที หลังจาก เชลซี ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่าได้แต่งตั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตำนานสโมสรเข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ แทนที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลียนที่ อำลาทีมเพื่อกลับไปรับงานกุมบังเหียน “ม้าลาย” ยูเวนตุส ช่วงซัมเมอร์นี้
"แลมพ์ส" ทำผลงานในฐานะกุนซือได้อย่างโดดเด่นเมื่อนำ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ มีลุ้นขึ้นชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่น่าเสียดายที่แพ้นัดชิง เพลย์ออฟ ต่อ แอสตัน วิลล่า โดยนอกจากผลงานชั้นยอดแล้ว ฟอร์มการเล่นของ "แกะเขาเหล็ก" ยังออกแนวเน้นเกมบุก รุกสนุก ถูกจริตแฟนบอลมากๆ
หลังจากที่ ซาร์รี่ ตัดสินใจอำลาถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ แน่นอนว่าชื่อของ แลมพาร์ด ผุดขึ้นมาในหัวของสาวก "สิงโตน้ำเงินคราม" และในที่สุดสิ่งที่วาดฝันก็เป็นจริง เมื่อเขาตัดสินใจสลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญาคุมทีม 3 ปีเรียบร้อยแล้ว และการได้ลูกหม้อเก่ามาทำงาน ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับสโมสรเชลซี
– อยากบอกอะไรกับทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับเชลซี
แลมพาร์ด : ผมภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้กลับมายัง เชลซี ในฐานะเฮดโค้ช ทุกคนรู้ดีว่าผมรักสโมสรนี้ และรักประวัติศาสตร์ที่เรามีร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผมสนใจเฉพาะงานที่อยู่ในมือของตัวเองเท่านั้น และจะเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง ผมมาที่นี่เพื่อทำงานอย่างเต็มที่, นำความสำเร็จมาสู่สโมสร ผมรอที่จะให้ฤดูกาลใหม่เริ่มต้นไม่ไหวแล้วล่ะ
– การที่ เอแด็น อาซาร์ ย้ายทีม
แลมพาร์ด : ผมคิดว่า เอแด็น อาซาร์ จากมุมมองของคนภายนอก มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเป็นส่วนตัวของ เอแด็น สโมสรและแฟนบอลต้องเคารพในเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่าเขาทุ่มเทให้สโมสรแห่งนี้อย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้นี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคร่ำครวญ เราอวยพรให้เขาพบกับสิ่งที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้สโมสรต้องก้าวเดินไปข้างหน้าในทิศทางใด สิ่งที่เรามีคือขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของพวกเขา ไม่มีการหาใครมาทดแทน อาซาร์ แต่เรามีนักเตะสำคัญๆ ในขุมกำลังชุดนี้
– เมสัน เมาท์ กับ ฟิกาโย่ โทโมรี่ เป็นยังไง
แลมพาร์ด : พวกเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ สำหรับผมเมื่อปีที่ผ่านมา พวกเขาบทบาทสำคัญ พวกเขากลับมาพร้อมกับเตรียมเริ่มต้นใหม่ ก็เหมือนกับทุกๆ คน พวกเขาจะได้รับโอกาสาพิสูจน์ตัวเองกับสโมสรแห่งนี้แน่นอน เรา
– การแข่งขันภายในทีม
แลมพาร์ด : เราไม่เคยหยุดพยายามที่เชลซี และเราจะพยายามทำแบบนั้นอีก ด้วยสัญชาตญาญของผมแน่นอนว่าเราต้องมีการแข่งขันภายในทีมตลอด
– การเปลี่ยนผู้จัดการทีมของเชลซีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แลมพาร์ด : ผมไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ผมอยู่กับความเป็นจริง และผมไม่อยากคิดเรื่องนี้ เราโฟกัสไปที่เรื่องการเปลี่นแปลงผู้จัดการทีม และคุณต้องพยายามทำให้ประสบความสำเร็จ คุณอาจจะโดนตัดสินจากระดับที่แตกต่าง ผมจะพายยามทำงานหนัก และมันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมทำมาตลอด ผมอยากทำงานร่วมกับนักเตะที่มีประสบการณ์ และอยากให้ผู้คนที่นี่อยากอยู่ที่นี่ ผมเคยเล่นร่วมกับนักเตะที่น่าเหลือเชื่อกับสโมสรแห่งนี้ แนวคิดของผมไม่ใช่แค่ทำงานร่วมกับนักเตะอายุ 18 หรือ 32 ปี แต่ต้องการสร้างขุมกำลังที่ดีที่สุดขึ้นมา
– โฟกัสไปที่สโมสร
แลมพาร์ด : สำหรับสโมสรเชลซี คุณต้องมุ่งมั่นที่จะนำทีมคว้าแชมป์ และถ้าผมไม่ได้พูดแบบนั้น ผมก็ไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่ เราต้องการพัฒนานักเตะด้วย
– ขนาดของขุมกำลัง และความหวังติดท็อปโฟร์
แลมพาร์ด : ใช่เราต้องทำให้ได้ แน่นอนว่าเรามีขุมกำลังขนาดใหญ่มากพอที่จะท้าทายอันดับท็อปโฟร์ มีการแข่งขันเยอะมากสำหรับพรีเมียร์ลีก เราเสีย อาซาร์ ไปแล้ว แต่ในเวลาเดียวกันเราก็มีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง ปีที่ผ่านมาได้อันดับ 3 และคว้าแชมป์ยูโปา ลีก
– ความก้าวหน้าแบบเขย่งก้าวกระโดดจากดาร์บี้
แลมพาร์ด : ผมก้าวไปไกลมากๆ กับดาร์บี้ เคาน์ตี้ ผมไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้ แต่นี่เป็นเรื่องราวที่แตกต่าง
– นี่เป็นความท้าทายในอาชีพของคุณมากแค่ไหน
แลมพาร์ด : ใช่ นี่คือหนึ่งในเรื่องที่สุดท้าทายมากๆ อาชีพนักฟุตบอลของผมจบไปแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการท้าทายที่สุดยอดมากๆ ผมจำได้เสมอตอนที่ผู้คนคิดว่าผมไม่ควรมาอยู่ที่นี่ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ (ราว 429 ล้านบาท) ผมทำงานหนักที่นี่ ผมไม่ต้องการเครดิตสำหรับตอนที่ผมยังค้าแข้ง ผมต้องการให้ตัดสินผมในเวลานี้
– เป้าหมายในฤดูกาลนี้
แลมพาร์ด : ไม่มีใครพูดเรื่องท็อปโฟร์ พวกเขาไม่ต้องการพูดเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเราเป็นสโมสรที่สามารถติดท็อปโฟร์อยู่แล้ว ผมรู้จักสโมสรแห่งนี้ และมาตรฐานของที่นี่ เราต้องอยู่ที่อันดับที่เราควรจะอยู่
– บทบาทของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับสโมสร
แลมพาร์ด : แน่นอน ผมรู้ว่าผมจะจับเขาเล่นในตำแหน่งไหน ขอบคุณมากๆ ผมไม่อยากพูดเกี่ยวกับแนวทางที่เราจะทำในฤดูกาลหน้า ก็องเต้ เป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในโลก งานของผมก็คือดึงความสุดยอดของเขาออกมา ผมรู้ว่าเขามีคุณภาพแบบไหน
– แบ็กรูมสตาฟฟ์ของเขากับ เชลซี
แลมพาร์ด : โจดี้ มอร์ริส ทำงานกับผมในฐานะผู้ช่วยโค้ช เรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เขาเป็นคนที่เชื่อมโยงกับศูนย์เยาวชนสโมสร ซึ่งประสบความสำเร็จมากๆ เรามีความจงรักภักดีให้กับสโมสร คริส โจนส์ ก็เช่นกัน เขาจะเป็นทีมโค้ชของผม เรารู้จักกันดีมากๆ โจ เอ็ดเวิร์ดส์ จะถูกดันขึ้นมาจากโค้ชรุ่นยู 23 เขาทำได้ดีมากๆเวลาที่อยู่ในสนามซ้อม เอ็ดดี้ นิวตัน จะทำงานร่วมกับเราด้วย เราอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เรามีความปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จร่วมกับสโมสรแห่งนี้
– การผสมผสานนักเตะดาวรุ่ง
แลมพาร์ด : มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เราคิดเอาไว้ แต่อาจจะมีการแปลความหมายผิด เราต้องการที่จะสร้างทีม และถ้าคุณสามารถดันตัวเองขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ แน่นอนว่าเราพร้อมที่จะให้โอกาสพวกเขา
– การย้ายมาคุมทีมอย่างเป็นทางการ
แลมพาร์ด : มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม การได้พูดคุย และได้เปิดใจเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของผม ผมรู้สึกดีมากๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นทางการแล้ว มันเป็นอะไรที่น่ายินดีมากๆ
แลมพาร์ด ปัจจุบันอายุ 41 ปี เป็นตำนานของ เชลซี และเป็นเจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร รวมทั้งเคยนำทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ 11 รายการตลอดช่วงระยะเวลา 13 ปีที่ค้าแข้งกับยอดทีมแห่งถิ่นเวสต์ ลอนดอน ส่วนเขาจะนำทีมยิ่งใหญ่เหมือนตอนเป็นนักเตะหรือเปล่า เรื่องนี้ต้องให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์